ภายในงานได้ขนทัพกูรูแถวหน้าด้าน DeFi และ Blockchain ระดับโลกมาให้ความรู้ด้านการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต ครอบคลุมทุกแง่มุมเรื่อง DeFi เช่น DeFi Landscape การนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง รวมถึงเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Non-Fungible-Tokens) และการร่วมลงทุนใน DeFi เป็นต้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกร่วมเข้าฟังได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ในวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2020 ตั้งแต่เวลา 08.15 - 17.00 น.
นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า "หนึ่งใน ecosystem ที่ SCB 10X ให้ความสนใจ คือ Decentralized Finance (DeFi) หรือ บริการทางการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคตแบบไร้ตัวกลางบนบล็อกเชน ที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคตอันใกล้ การจัดงานสัมมนา "REDeFiNE TOMORROW: Global DeFi & Blockchain Virtual Summit" ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจและให้ความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนีู้ รวมถึงสร้างการเติบโตในระดับสากล โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกูรูแถวหน้าของวงการ DeFi และ Blockchain จากทั่วทุกมุมโลก มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันแนวคิด วิธีการ ตลอดจนประสบการณ์ ให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับชมผ่านรูปแบบของ webinar โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเรามุ่งหวังว่างานในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันในเชิงลึกระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรม Digital assets และ Blockchain เชื่อมความสัมพันธ์กับทุกฝ่ายใน ecosystem ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้ง (Founder) นักพัฒนา (Developers) นักลงทุน (Investors) และผู้ใช้บริการ (End Users) ให้พร้อมรับมือกับระบบการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต เราเชื่อมั่นว่างานสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยให้ความรู้ และทำให้ระบบการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต DeFi เป็นที่รู้จักมากขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจและทำงานร่วมกับผู้เล่นใน ecosystem ของ DeFi ทั่วโลก ในอนาคต"
หัวข้อที่น่าสนใจในงาน "REDeFiNE TOMORROW: Global DeFi & Blockchain Virtual Summit" ครอบคลุมทุกแง่มุมเรื่อง Decentralized Finance และ Blockchain ได้แก่ เทรนด์โลกในเรื่อง DeFi นวัตกรรมต่าง ๆ ของ DeFi ทำอย่างไรให้เกิดการนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง รวมถึงเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Non-Fungible-Tokens) และการร่วมลงทุนใน DeFi เป็นต้น
วิทยากรในงาน "REDeFiNE TOMORROW" ประกอบด้วย:
- มุขยา พานิช (Mukaya Panich) - Chief Venture and Investment Officer บริษัท เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X)
- โรเบิร์ต เลชเนอร์ (Robert Leshner) - ผู้ก่อตั้ง และ CEO Compound, บริษัทที่เป็นผู้เขียนข้อกำหนดอัลกอริทึ่มสำหรับตลาดเงิน เพื่อคิดดอกเบี้ยอัตโนมัติสำหรับการกู้ยืมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพบน Ethereum blockchain ซึ่งโรเบิร์ตเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงที่สุดในแวดวง DeFi
- โอลาฟ คาร์ลสัน วี (Olaf Carlson-Wee) - ผู้ก่อตั้ง และCIO Polychain Capital, กองทุนชั้นนำที่ลงทุนใน Digital assets ระดมทุนได้มากกว่า 307 ล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนหลัก
- สทานิ คูเลอร์ชูร์ (Stani Kulechov)- ผู้ก่อตั้ง และCEO Aave, ผู้ประกอบการที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใน crypto lending และ Aave เพิ่งเสร็จสิ้นการระดมทุน 25 ล้านเหรียญ
- รูน คริสเต็นเซน (Rune Christensen) - CEO Maker Foundation และผู้ร่วมก่อตั้ง MakerDao รูน ได้สร้าง MakerDao ซึ่งเป็นโปรเจคที่อยู่เบื้องหลัง stablecoin Dai และเป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดใน Decentralized Finance ซึ่งปัจจุบัน MakerDao's Dai stablecoin มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญ
- เคน วอร์วิค (Kain Warwick) - ผู้ก่อตั้ง Synthetix, แพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์ DeFi สำหรับ synthetic assets ที่สร้างขึ้นบน Ethereum ในเดือนพฤศจิกายน 2563 Brent crude oil futures ได้เริ่มมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนบน Synthetix DeFi
- ไมเคิล อาร์ริงทัน (Michael Arrington)- ผู้ก่อตั้ง Arrington XRP Capital, หนึ่งใน บกองทุนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแวดวง Blockchain และเป็นผู้ก่อตั้ง TechCrunch สื่อชั้นนำด้านเทคโนโลยี
- แซม แบงก์แมน ฟรีด์ (Sam Bankman-Fried) - ผู้ร่วมก่อตั้ง Serum, ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO FTX, ผู้ร่วมก่อตั้ง Alameda Research และในปีนี้ FTX เพิ่งซื้อกิจการ Blockfolio มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์
- สรวิศ ศรีนวกุล (Soravis Srinawakoon)- ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO Band Protocol หนึ่งในโครงการที่มีศักยภาพสูงของปี 2020 และเป็นผู้นำด้าน data oracle space สรวิศ มีชื่อติดใน Forbes 30 under 30 ที่ผลักดันในการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในวงกว้าง
นายสรวิศ ศรีนวกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO Band Protocol กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในงาน REDeFiNE TOMORROW: Global DeFi & Blockchain Virtual Summit ในครั้งนี้ ได้เห็นการรวมกันของ CeFi และ DeFi และมีความตื่นเต้นที่ได้เห็นถึงการเติบโตแบบข้ามขั้นของ DeFi ควบคู่ไปกับการที่ได้เห็นสถาบันทางการเงินอย่างธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง"
นายสทานิ คูเลอร์ชูร์ ผู้ก่อตั้ง และCEO Aave กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวิทยากรในงาน SCB10X REDeFiNE TOMORROW: Global DeFi & Blockchain Virtual Summit และยิ่งน่าตื่นเต้นมากไปกว่านั้นที่ได้เห็นสถาบันการเงินเริ่มสนใจในเรื่อง DeFi มากขึ้น ภายในงานสัมมนาจะพูดถึงเรื่อง นวัตกรรมด้าน DeFi lending ผู้ที่ชื่นชอบและมีความสนใจเรื่อง DeFi ไม่ควรพลาดงานนี้ เพราะว่างานนี้ได้รวบรวมวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านนี้มาร่วมแชร์ข้อมูล"
นายโอลาฟ คาร์ลสัน วี ผู้ก่อตั้ง และCIO Polychain Capital กล่าวว่า "เอเชียเป็นประเทศที่ cryptocurrency เติบโตรวดเร็ว และมีการนำไปใช้เป็นจำนวนมาก เรามีความยินดีที่ร่วมเป็นวิทยากรในงาน SCB10X REDeFiNE Tomorrow ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ด้าน DeFi ให้กับผู้ที่สนใจได้ฟัง"
SCB 10X มุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีผ่านการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงเรื่อง Blockchain และสินทรัพย์ดิจิทัล (digital assets) ในขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีให้กับคอมมูนิตี้ของ Blockchain ในเอเชีย และทั่วโลกอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมรับชม"REDeFiNE TOMORROW Virtual Summit" และดูรายละเอียดต่างๆได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/REDeFiNETOMORROW
เกี่ยวกับ SCB 10X
บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมพานี ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ภายใต้ภารกิจ "Moonshot Mission" มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่าน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ Venture Capital, Venture Builder และ Strategic Investment and Partnership นอกจากนี้ SCB 10X ยังทำหน้าที่ดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีที่อยู่ในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมด ได้แก่ บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด บริษัท มันนิกซ์ จำกัด และบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีที่จะจัดตั้งหรือลงทุนในอนาคต รายละเอียดเพิ่มเติม www.scb10x.com หรือ ติดต่อ [email protected]