ชป.แจงฝายทดน้ำพุมดวง จ.สุราษฎร์ฯ อยู่ระหว่างออกแบบ ย้ำชัดไม่กระทบนิเวศท้ายน้ำ

พฤหัส ๑๗ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๐๘:๔๔

กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีชาวสุราษฎร์ธานีร้องเรียนโครงการเขื่อนกั้นแม่น้ำพุมดวง ก่อนทำการก่อสร้างไม่ปรากฏแบบแปลนฝายทดน้ำหรือคันกั้นแม่น้ำพุมดวง ทั้งยังไม่มีการศึกษาผลกระทบยังรอบด้าน ขาดการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งครอบคลุมประชาชนที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่แท้จริง นั้น

นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ชี้แจงกรณีนี้ว่า ลุ่มน้ำคลอง
พุมดวง ในสภาพปัจจุบันมีการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บริเวณต้นน้ำถูกใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่เกษตรกรรมมากขึ้น ด้วยสภาพของภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับระดับน้ำในคลองมีปริมาณน้อยลง ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่เพียงพอใช้ตลอดทั้งปี กรมชลประทาน จึงได้วางแผนงานโครงการก่อสร้างฝายทดน้ำกั้นคลองพุมดวง บริเวณสถานีสูบน้ำโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โดยกรมชลประทาน ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาฯ เพื่อศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งจากผลการศึกษาเห็นควรให้พัฒนาอาคารทดน้ำในรูปแบบฝายพับได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถเก็บกักน้ำได้ 6.60 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้ง ทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำบริเวณด้านเหนือน้ำได้อีกด้วย ส่วนในช่วงฤดูน้ำหลากจะพับตัวลงขนานกับลำน้ำ ซึ่งจะไม่กีดขวางลำน้ำเหมือนกับฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้การระบายน้ำทางน้ำด้านท้ายน้ำ ทำให้ปริมาณน้ำด้านท้ายน้ำสม่ำเสมอในช่วงฤดูแล้ง จะช่วยรักษาสมดุลย์ของระบบนิเวศ ซึ่งการสร้างฝายในลักษณะนี้ จะทำให้น้ำสามารถไหลล้นไปด้านท้ายน้ำได้ไม่ต่างจากสภาพปัจจุบัน ไม่ใช่การก่อสร้างในลักษณะของเขื่อนแต่อย่างใด

ทั้งนี้เนื่องจากคลองพุมดวงไม่ได้เป็นแม่น้ำสายหลักจึงไม่เข้าข่ายตามประเภทโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่กรมชลประทานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงวิถีชีวิตของประชาชนที่ใช้ทรัพยากรสองฝั่งคลองในการประกอบอาชีพ จึงได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการศึกษาความเหมาะสม หากผ่านขั้นตอนการศึกษาแล้ว จะดำเนินการด้านการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการฯ และจะลงพื้นที่เพื่อทำประชาพิจารณ์ร่วมกับประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ต่อไป

นายเสริมชัยฯ กล่าวด้วยว่า "อาคารทดน้ำแบบฝายพับได้ มีการคำนวณสมดุลน้ำอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาระบบนิเวศด้านท้ายน้ำไว้ ซึ่งไม่แตกต่างจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การศึกษาสมดุลน้ำ ได้ปล่อยน้ำให้ล้นผ่านสันฝายสู่ด้านท้ายน้ำ เพื่อรักษาระบบนิเวศด้านท้ายน้ำ เช่น การป้องกันการรุกล้ำน้ำเค็ม การประปาภูมิภาค การประปาของท้องถิ่น รวมทั้งความต้องการน้ำเพื่อรักษาคุณภาพน้ำของการประมงด้วย โดยจะไม่ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศในลำน้ำอย่างแน่นอน"

กรมชลประทาน ในฐานะของหน่วยงานที่มีภารกิจในการพัฒนาแหล่งน้ำ และเพิ่มพื้นที่ชลประทานตามศักยภาพลักษณะลุ่มน้ำ เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำ ขอยืนยันว่าการดำเนินงานพัฒนาแหล่งน้ำทุกโครงการ จะยึดประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ