ด้าน ดร.อรรถพล สังขวาสี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกกษา กล่าวว่าในช่วงปี 2562-2563 ความร่วมมือดังกล่าวได้ดำเนินการโครงการฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อการเปลี่ยนแปลง สนับสนุนโดยสหภาพยุโรป สามารถดำเนินการในภาพรวมได้มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ที่ 1,300 คน โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการฝึกอบรม 150 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 1,728 ราย เช่นคอมพิวเตอร์ธุรกิจ การออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า เสริมสวย-สปา ช่างซ่อมเครื่องยนต์เล็ก ก่อสร้างพื้นฐาน งานบริการโรงแรมเพื่อประยุกใช้ในงานอาชีพ อาหารและขนม เป็นต้น
โดยในวันนี้ได้จัดให้มีการสรุปผลการดำเนินงานและทบทวนโครงการฯ เพื่อการเตรียมการในปีต่อไปที่วิชาชีพต่างๆ มีความเปลี่ยนแปลง เช่นทักษะทางด้านเทคโนโลยีด้านไอทีต่างๆ รวมถึงต้องการของผู้พักพิง และมาตรฐานฝีมือที่ต้องได้มาตรฐาน ซึ่งมีแนวทางในขยายโอกาสในลำดับต่อไปเพื่อพัฒนาหลักสูตรการส่งเสริมในการเริ่มต้นทางธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายความเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนที่มีความต้องการมากที่สุด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนรวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ในการยกระดับการเข้าถึงการศึกษาให้มากที่สุด การสร้างโอกาสในการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สร้างโอกาสในการมีงานทำมีรายได้ในการใช้ชีวิต โดยสอศ. ได้ดำเนินงานเพื่อช่วยสนับสนุนการส่งเสริมการเข้าถึงการอาชีวศึกษาเพื่อการมีอาชีพ ให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายผ่านรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย รวมไปถึงกิจกรรมภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ จะร่วมกันพัฒนาทักษะ ความรู้และวิชาชีพให้กับผู้พำนักในศูนย์พักพิง เพื่อวันหนึ่งข้างข้างหากเข้ามีโอกาสในการกลับสู่ภูมิลำเนาหรือมาตุภูมิ หรือการได้ไปอยู่ในประเทศต่างๆ ที่พัฒนาแล้ว ทักษะเหล่านี้จะเป็นหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการสร้างชีวิตและสร้างอาชีพให้กับพวกเขา
ด้าน Mr. Elvis Walemba ผู้อำนวยการ country program ADRA Thailand กล่าวว่าพวกเราอยู่ในสังคมเดียวกันภายใต้ประชาคมอาเซียนซึ่งเป็นที่คาดหวังว่าการถ่ายโอน เคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาค จะเพิ่มขึ้น การประชุมในวันนี้จะเป็นการยืนยันว่าจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน ในการสร้างความร่วมมือสนับสนุนการอาชีวศึกษา ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เราจะดำเนินกิจกรรมที่หลากหลายและที่สำคัญยิ่งคือการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมา ผ่านความร่วมมือกับ Adra Thailand และ สมาคมความช่วยเหลือเพื่อความร่วมมือและพัฒนาACTED Thailand