มท.2 กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างเข้มข้น

พฤหัส ๑๗ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๕๑

16 ธ.ค. 63 เวลา 13.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เน้นย้ำให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ดำเนินมาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทางครอบคลุมทุกด้าน เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร คุมเข้มการตรวจสอบมลพิษ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยยึด พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 เป็นกรอบในการอำนวยการ สั่งการ ร่วมกับกฎหมาย และแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้เน้นย้ำให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ดำเนินมาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิด) ดังนี้ ด้านการขนส่งและจราจร บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งการตรวจสภาพการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กำหนดห้วงเวลาการเดินทางของผู้ประกอบการขนส่งขนาดใหญ่ เพิ่มจุดตรวจจับควันดำรถยนต์ การส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้า และรณรงค์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ด้านการก่อสร้าง ให้หน่วยงานระดับพื้นที่ประสานผู้ประกอบการหยุดการก่อสร้างในช่วงเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก การติดสปริงเกอร์พ่นละอองน้ำ และการฉีดล้างถนน ด้านอุตสาหกรรม โดยขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมลดกำลังการผลิต รวมถึงคุมเข้มการตรวจสอบระบบควบคุมมลพิษทางอากาศ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการเกษตร มุ่งเน้นการรณรงค์และสนับสนุนให้เกษตรกร นำเศษวัสดุการเกษตรไปใช้ประโยชน์หรือย่อยสลายด้วยวิธีที่เหมาะสมแทนการเผา ส่วนพื้นที่ที่จำเป็นต้องมีการเผา ให้กำหนดมาตรการควบคุมและแนวทางการจัดการในพื้นที่ ภาคครัวเรือน ขอความร่วมมือประชาชนในการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากฝุ่นละอองขนาดเล็กแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามนโยบายรัฐบาล

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้บูรณาการจังหวัด กรุงเทพมหานคร ระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเตรียมพร้อมสนับสนุนทรัพยากร เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เข้าสนับสนุนการปฏิบัติการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ