มีการเปิดตัวสื่อการเรียนรู้การป้องกันภัยทางเพศ "ตัวฉันเป็นของฉัน" ในรูปแบบใหม่ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้มีการประกาศผลรางวัลการประกวดสื่อภาพเคลื่อนไหว ในหัวข้อ "รวมพลังปกป้องเด็กจากความรุนแรงทุกรูปแบบ"
นางสาววาสนา เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า "การจัดงานในปีนี้มีความพิเศษตรงที่ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 มูลนิธิฯ เลยถือโอกาสนี้จัดเสวนาเรื่อง 40 ปีก้าวย่างของมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กในเส้นทางของการคุ้มครองเด็ก และการนำเสนองานเชิงป้องกัน โครงการตัวฉันเป็นของฉัน ที่มูลนิธิฯ ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2540 ในปีนี้เรามีการพัฒนาคลิปวีดีโอขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เด็กผู้ปกครองได้มีโอกาสได้เรียนรู้ด้วยตัวเองนะคะในสื่อออนไลน์ ซึ่งวันนี้เราจะถือโอกาสในการเปิดตัวคลิปวีดีโอตัวฉันเป็นของฉันและนอกจากนี้ในปีนี้เราจัดงานประกวดสื่อภาพเคลื่อนไหวให้ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ส่งสื่อเคลื่อนไหวเข้ามาประกวดมีคนส่งผลงานมาทั้งหมด 47 ทีมคณะกรรมการได้พิจารณาเรียบร้อยแล้วและวันนี้จะเป็นการประกาศแล้วก็มอบรางวัลให้กับผู้ที่ชนะการประกวด เพราะฉะนั้นในปีที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กเข้าสู่ปีที่ 40 มูลนิธิฯ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำงานปกป้องคุ้มครองเด็กแล้วก็ส่งเสริมพัฒนาเด็ก ทีมสหวิชาชีพ บุคลากรทางการแพทย์หน่วยงานกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ภาคประชาสังคมแล้วก็ประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังๆ นี้เราได้รับการสนับสนุนการทำงานจากภาคธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนการทำงานของเราหลายหน่วยงานเลยทีเดียว ขอขอบพระคุณไว้ณ โอกาสนี้"
ว่าที่ร้อยตรีฤทธิพันธ์ นันทศุภกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวเปิดงานและหลังจากเดินชมบูธกิจกรรมในงานได้กล่าวว่า "ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่คนไหน ล้วนเห็นความสำคัญของเด็กอยู่แล้วและเขาจะต้องอยู่ในโลกนี้อีกนานนะครับ ส่วนหนึ่งเขาก็ต้องมาทำหน้าที่ของผู้ใหญ่ทดแทนพวกเราในวันข้างหน้า วันนี้เป็นโอกาสดีมากที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กได้จัดกิจกรรมที่ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างยิ่ง เท่าที่ฐานกิจกรรมต่างๆ ที่ผมได้เดินดูเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้จริง หลายๆ ฐานอย่างเช่นที่เห็นชัดเจนที่สุด เป็นฐานที่สอนให้น้องรู้ว่าเวลาเขาต้องการความช่วยเหลือเวลาเขาเกิดปัญหากับตัวเขาเอง เขาจะพึ่งพาใครได้ วิธีการพึ่งพานั้นจะเริ่มต้นตรงไหน เช่นว่าเป็นตำรวจ ทนายความ นักสิทธิมนุษยชน ก็จะมีหลายๆ ส่วน อีกอันหนึ่งที่เห็นชัดเจนคือเป็นฐานเกี่ยวกับการให้การช่วยเหลือคนที่ประสบเหตุ อย่างเช่น ตกน้ำ เราดูสถิติประเทศไทยมีเด็กๆ เราสูญเสียเด็กๆเพราะว่าจมน้ำเยอะมากแล้วเรามองไม่ค่อยเห็น เราจะมักจะสอนให้เขาช่วยตัวเองเรื่องไฟไหม้ เรื่องแผ่นดินไหว จริงๆ แล้วเรื่องเกี่ยวกับการจมน้ำสำคัญมาก แล้วในบูธนิทรรศการอธิบายเป็นรูปธรรม ให้เด็กๆ สามารถนำไปใช้ได้เลย"
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พ่อแม่ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานเข้าร่วมกิจกรรมงานเดินเพลิน@พระอาทิตย์ ในครั้งนี้จะได้มีเวลาทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน และครอบครัวได้ความรู้ที่จะนำไปใช้ในครอบครัวตัวเอง และเป็นการจุดประกายให้หลายภาคส่วนนำแนวคิด รูปแบบกิจกรรมไปพัฒนาต่อยอดสู่การสร้างสังคมที่น่าอยู่และปลอดภัยสำหรับเด็กต่อไป