นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทลงนามสัญญาความร่วมมือกับ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (TPC) เพื่อเป็นผู้แทนจำหน่ายบัตรสมาชิกพิเศษ Elite Flexible One รายแรก ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น
โดย TPC ในฐานะผู้ดำเนินโครงการบัตรเอกสิทธิ์พิเศษชั้นนำของประเทศ ด้วยผลงานแห่งความสำเร็จ ที่ผ่านมาจากการให้สิทธิประโยชน์ด้านวีซ่าในการอยู่อาศัยระยะยาวในประเทศไทย ร่วมกับการบริการอำนวยความสะดวกในการเข้าออก และการอยู่อาศัยในประเทศไทย ยังไม่รวมถึงเอกสิทธิทางด้านสิทธิประโยชน์ภาคธุรกิจ และบริการต่าง ๆ จากเครือพันธมิตร เพื่อมุ่งเน้นให้สมาชิกได้รับบริการที่ดีที่สุด ไรมอน แลนด์ จึงมั่นใจในรากฐานทางธุรกิจอันแข็งแกร่ง และความเชี่ยวชาญของ TPC จะช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันในมิติใหม่ให้ประสบผลสำเร็จได้ด้วยดี
แม้ภาพรวมสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะยังไม่ปกติ แต่เชื่อว่าในปี 64 จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว คาดว่าผู้ซื้อในและต่างประเทศจะทยอยเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยความน่าสนใจของราคาอสังหาริมทรัพย์ไทย ในปัจจุบันที่มีราคาที่น่าดึงดูด และมีผลตอบแทนในการลงทุนที่สูง เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ประกอบกับศักยภาพของประเทศไทยมีความพร้อมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านสาธารณสุข และการที่ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำหรับการลงทุนของนักธุรกิจทั่วโลก รวมถึงชาวต่างชาติที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะชาวจีน ที่มองหาบ้านหลังที่สองในประเทศที่มีความปลอดภัยและสาธารณสุขที่ดี จึงถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ เพียงแต่รอโอกาสเข้ามายังประเทศไทย เมื่อมีการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ไรมอน แลนด์ วางแผนการตลาดเน้นเจาะฐานลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งจีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ยุโรป และอื่นๆ โดยการทำกิจกรรมการตลาดและการขายแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แนะนำบัตร Elite Flexible One ให้เป็นที่รู้จักผ่านการออกบูธแนะนำ และโฆษณาในสื่อต่างๆ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี
สำหรับเงื่อนไขและข้อตกลงโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ Elite Flexible One ผู้ยื่นคำขอสมัครสมาชิกจะต้องถือครองกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ของ ไรมอน แลนด์ ซึ่งได้นำคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ร่วมรายการ 3 โครงการ อาทิ คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ The Lofts Silom, The River และ The Diplomat 39 มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยทางไรมอน แลนด์ จะมอบสิทธิพิเศษการเป็นสมาชิกบัตรดังกล่าว ฟรีทันที พร้อมรับสิทธิประโยชน์ เช่น สิทธิประโยชน์ด้านวีซ่าในการเข้า-ออกประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปี (Privilege Entry Visa) รวมถึงเอกสิทธิ์ระดับ VIP ต่าง ๆ อาทิ บริการสนามบิน EPA & Premium Lane 12 ครั้งต่อปี, บริการสนามบิน (ห้องรับรองผู้โดยสารขาออกและรถยนต์ไฟฟ้า) 6 ครั้งต่อปี, ผู้ประสานงานส่วนบุคคล เป็นต้น
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (TPC) กล่าวว่า บริษัทร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือโครงการบัตร "Elite Flexible One" เพื่อขยายการค้าการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย พร้อมกับแต่งตั้งให้ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) เข้าร่วมโครงการเป็นรายแรก
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการดึงให้กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุนที่มีศักยภาพเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขายโครงการ ได้เร็วขึ้น สร้างกระแสเงินสด และทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ด้วยดี รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ผ่านบัตรสมาชิก "Elite Flexible One"
"ไรมอน แลนด์ ในฐานะตัวแทนพันธมิตรองค์กรภาคเอกชนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีศักยภาพและจุดเด่นด้านการขายอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี เพื่อขยายฐานลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมกัน ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการให้บริการที่ดีที่สุดจาก TPC" นายสมชัยกล่าว
สำหรับเงื่อนไขการสมัครสมาชิกบัตร Elite Flexible One ผู้สมัครต้องมีการลงทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมใหม่ที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในประเทศไทย โดยมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งห้องชุดที่ซื้อนั้นจะต้องเป็นของผู้ประกอบการรายเดียวกัน หรือบริษัทเดียว แต่สามารถกระจายทำเลในการซื้อห้องชุดได้ ในกรณีที่ห้องชุดมีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรืออาจเลือกซื้อห้องชุดในโครงการเดียวกัน แต่ต้องมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยโปรแกรมพิเศษดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 และจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 65 โดยคาดว่าโครงการจะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
และผู้เป็นสมาชิกของ Thailand elite ได้สิทธิ์ในการเดินทางเข้าประเทศได้ง่ายและรวดเร็ว ผ่านทางโครงการ Tem-Q ที่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ จาก ศบค ที่มีมาตรการรัดกุมและปลอดภัย รวมทั้งร่วมให้บริการ ASQ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับเม็ดเงินจากการใช้จ่ายของสมาชิก ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ หยุดชะงัก โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มากถึงร้อยละ 22 จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก (ข้อมูลจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก) ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมด้านการตลาดและการท่องเที่ยวได้ดำเนินงานตามมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศของรัฐบาล ดังนี้
- กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ เสริมสภาพคล่องทางการเงิน เกิดเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการ Amazing Thailand SHA โครงการเส้นทางคนโสด เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยออกไปใช้จ่าย ทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้ในช่วงโควิด-19 โดยมีตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านคน คิดเป็นรายได้ของประเทศที่หายไปประมาณ 2.5 แสนล้านบาท
- สร้างรายได้จากฐานนักท่องเที่ยว/นักธุรกิจชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ซึ่งจากเป้าประสงค์ในข้อ 2 ประกอบกับมาตรการผ่อนปรนให้นักธุรกิจชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ทำให้ ททท. เล็งเห็นถึงโอกาสอันดีในการขยายสิทธิประโยชน์จากบัตร Thailand Elite ซึ่งเป็นธุรกิจที่ ททท. ลงทุน และบริหารโดยบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เพื่อดึงดูดให้กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุนชาวต่างชาติที่มีศักยภาพเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยผ่านโปรแกรมพิเศษ Elite Flexible One
โดยบัตร Elite Flexible One จะมอบให้แก่นักธุรกิจหรือนักลงทุนชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการฯ กับบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ที่มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งบัตรดังกล่าวจะมีสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ วีซ่าประเภท Privilege Entry อายุ 5 ปี การใช้บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่สนามบิน เป็นต้น โดย ททท. คาดว่าจะมีนักธุรกิจหรือนักลงทุนสนใจลงทุนโปรแกรมนี้อย่างน้อย 100 ราย และมีเม็ดเงินลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมากกว่า 1,000 ล้านบาท
สุดท้ายนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยภายหลังวิกฤตโควิด-19 ที่จะช่วย Rebound กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ฟื้นกลับมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างยั่งยืน