ในโอกาสการผลิตมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คันแรกในประเทศไทยนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า "พิธีฉลองความสำเร็จในวันนี้ คืออีกก้าวสำคัญของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีด้านยานยนต์ที่ก้าวหน้าและการใช้พลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายของรัฐในอันที่จะสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการลดการสร้างภาระให้แก่สิ่งแวดล้อม เพื่อสิ่งแวดล้อมที่สะอาดขึ้นในอนาคตและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบัน เราได้เน้นย้ำเรื่องโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG Model ซึ่งจะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เราให้ความสำคัญเรื่องรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) และการปรับเปลี่ยนสู่ฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในอีก 10 ปี ข้างหน้า เราตั้งเป้าเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศ ดังนั้น รัฐบาลจึงวางแผนโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อที่จะจูงใจให้เกิดการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของตลาดภายในประเทศ และเตรียมพร้อมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย"
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 3,000 พันล้านบาท เพื่อการผลิตรถยนต์เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในประวัติศาสตร์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยรถยนต์รุ่นดังกล่าว ได้ผลิตขึ้นที่ศูนย์การผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่แหลมฉบัง ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นศูนย์การผลิต ที่ผลิตรถยนต์พีเอชอีวี ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก
มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ตามแผนธุรกิจ ระยะกลางของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่ได้ประกาศไว้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เราจึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง พร้อมร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศด้วยการเปิดตัว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการผลิตรถยนต์รุ่นสำคัญนี้ นอกประเทศญี่ปุ่น เพราะ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของประเทศไทย และความสามารถในการผลิตของโรงงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นศูนย์การผลิตที่สำคัญระดับโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น"
สำหรับการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ครั้งแรกในประเทศไทยครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ให้การตอบรับต่อนโยบายของรัฐที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ถูกออกแบบขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม ทำให้รถยนต์พีเอชอีวีสัญชาติญี่ปุ่นที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย สามารถเข้ามาตอบโจทย์ให้แก่ผู้ขับขี่คนไทยที่มองหารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ นอกจากจะเป็นรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลกแล้ว ยังเป็นรถพีเอชอีวีที่ขายดีที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยเหตุผลสำคัญก็คือ รถยนต์เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เป็นรถยนต์ที่ผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย "ปาเจโร" สุดยอดตำนาน แห่งรถเอสยูวี "มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน" เจ้าแห่งสนาม "เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ" (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง "ไอ-มีฟ" (i-MiEV) ดังนั้น รถยนต์รุ่นนี้ จึงไม่ได้เป็นแค่รถยนต์แห่งพลังงานทางเลือกเท่านั้น แต่ยังเป็นรถยนต์ที่จะสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ ที่สะดวกสบายและสมรรถนะที่เหนือชั้นอีกด้วย"
"ประเทศไทย เป็นศูนย์การผลิตหลักและฐานการส่งออกที่สำคัญ เราก็ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในปี 2561 เราได้ฉลองความสำเร็จกับการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน ในปี 2562 เราฉลองการส่งออกรถยนต์ถึง 4 ล้านคัน และขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์เป็นอันดับ 1 และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราได้เริ่มต้นโครงการเพื่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่และปรับปรุงโรงงานใหม่ ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 7 พันล้านบาท และวันนี้ เราได้ฉลองความสำเร็จอีกก้าวกับการผลิตรถยนต์เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คันแรก ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย และทุกๆ ท่าน ได้ให้การสนับสนุน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นอย่างดีมาโดยตลอด จนทำให้เราสามารถที่จะ ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้" มร. ชกกิ กล่าวเสริม
ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าเต็มกำลังเพื่อการผลิตรถยนต์เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่ศูนย์การผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แหลมฉบัง โดยพร้อมจะส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวให้แก่ลูกค้าประมาณกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 และสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถจองรถได้ที่ผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในการจำหน่ายมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ทั่วประเทศ