นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ธันวาคม 2563 บีโอไอเตรียมจัดประชุมหารือระหว่างภาครัฐและเอกชนรายใหญ่กว่า 30 องค์กร เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุนของไทยในปี 2564 โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
สำหรับภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 ภาคธนาคาร รวมถึงภาคเอกชนซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ ครอบคลุมกิจการที่มีความสำคัญ เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมอุปโภคและบริโภค โทรคมนาคม นิคมอุตสาหกรรม โรงแรม
"แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในแต่ละประเทศ มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุนที่จะเริ่มกลับมาในปี 2564 ซึ่งไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน บีโอไอจึงเตรียมความพร้อมในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและหามาตรการรองรับกิจการใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต" นางสาวดวงใจกล่าว
สำหรับการระดมความคิดเห็นครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลและบีโอไอมีความตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนนโยบาย และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้สอดรับกับเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะนำข้อคิดเห็นของภาครัฐ ภาคธนาคาร และภาคเอกชน มากำหนดเป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจไทยในเวทีโลก
นางสาวดวงใจ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ปี 2563 นี้ แม้ผู้ประกอบการจะชะลอการลงทุนใหม่ แต่สำหรับคำขอรับการส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตกลับเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าภายใต้สถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น ผู้ประกอบการในประเทศไทยมีการปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว อุตสาหกรรมในประเทศไทยก็พร้อมที่จะรองรับการลงทุนที่จะกลับมาด้วยเช่นกัน