กทม.ขอความร่วมมือประชาชนแยกทิ้งขยะหน้ากากอนามัย - เพิ่มถังรองรับในที่สาธารณะ

พุธ ๓๐ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๑๗:๒๔

นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวกรณีในสื่อออนไลน์ตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีและเสนอแนะให้เพิ่มถังขยะสำหรับทิ้งขยะติดเชื้อในพื้นที่สาธารณะว่า ที่ผ่านมาสำนักสิ่งแวดล้อมมีแนวทางการจัดการขยะหน้ากากอนามัยตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน ด้วยการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจการทิ้งขยะหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งปะปนกับมูลฝอยทั่วไปในครัวเรือน โดยพับหน้ากากอนามัยใส่ถุงที่ปิดสนิท มัดปากถุงให้แน่น เขียนหรือติดหน้าถุงว่า "หน้ากากอนามัย" แยกทิ้งให้รถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขต หรือทิ้งในถังรองรับหน้ากากอนามัยเฉพาะ (สีส้ม) ในจุดที่กรุงเทพมหานครกำหนด เพื่อเก็บรวบรวมและขนส่งไปกำจัดด้วยวิธีการเผาในเตาเผามูลฝอยติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ขณะเดียวกันได้ตั้งวางถังรองรับหน้ากากอนามัยที่สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทุกแห่ง รวมถึงศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) และศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) อีกทั้งได้จัดหาถังรองรับหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมตั้งวางในโรงเรียนสังกัด กทม. ศูนย์กีฬา กทม. ศูนย์เยาวชน กทม. สถานีดับเพลิง สวนสาธารณะ และสถานที่สาธารณะที่เหมาะสม พร้อมกำชับให้ควบคุม ดูแล และตรวจสอบไม่ให้มีการทิ้งมูลฝอยทั่วไปปะปนกับหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว

ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น ยังได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจการทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก โปสเตอร์ การสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนแยกทิ้งขยะหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไปในครัวเรือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอย ขณะเดียวกันได้กำชับผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอยที่ต้องจัดเก็บหน้ากากอนามัย หรือมูลฝอยที่อาจปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ดำเนินการตามข้อปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอยในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งก่อนปฏิบัติงาน ขณะปฏิบัติงาน และหลังปฏิบัติงาน รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตนเองและตรวจสอบการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลทุกครั้งที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเก็บหน้ากากอนามัยให้ใช้คีมคีบขยะแทนการใช้มือหยิบจับ เพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสเชื้อโรคและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ