เอเอ็มดีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4 และประจำปี 2548

ศุกร์ ๒๐ มกราคม ๒๐๐๖ ๑๖:๓๒
กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
- ปัจจัยบวกในไตรมาส 4 คือยอดขายและกำไรจากโพรเซสเซอร์ -
- ไตรมาส 4 เอเอ็มดีทำกำไรต่อหุ้นได้ 0.45 ดอลลาร์(ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด) -
เอเอ็มดี (NYSE: AMD) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4 สิ้นสุด 25 ธันวาคม 2548 และเนื่องจากกรณีไอพีโอ (Initial Public Offering; IPO) ของบริษัทสแปนชั่น (Spansion) ดังนั้นผลการดำเนินงานของเอเอ็มดีจึงจะรวมผลการดำเนินงานของ สแปนชั่นเข้าไว้ด้วยจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2548 เท่านั้น และเพราะไม่สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2548 กับไตรมาส 4 ปี 2547 ได้โดยตรง เอเอ็มดีจึงได้จัดทำรายงานขึ้นอีกฉบับหนึ่งในรูปแบบ non-GAAP ซึ่งจะไม่รวมผลการดำเนินงานของสแปนชั่นและกลุ่มเมมโมรี่เข้าไว้ในรายงานฉบับดังกล่าวด้วย คณะผู้บริหารเชื่อว่ารายงานฉบับ non-GAAP จะซัพพอร์ตนักลงทุนได้ด้วยการแสดงผลการดำเนินงานทั้งในปัจจุบันและที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้การประมาณการผลการดำเนินงานในอนาคตถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
ผลประกอบการประจำไตรมาส 4 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 1.84 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 206 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 69 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.21 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตัวเลขชุดนี้รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น และส่วนของผู้ถือหุ้นของเอเอ็มดีในบริษัทสแปนชั่นจำนวน 37.9% ตามไอพีโอของสแปนชั่นแล้ว ถ้าไม่รวมสิ่งเหล่านี้ เอเอ็มดี จะมีกำไรสุทธิ 205 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.45 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ยอดขาย 1.84 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ปี 2548 (ไม่รวมยอดขายของสแปนชั่นใน 5 วันสุดท้ายของไตรมาส 4 เนื่องจากไอพีโอของสแปนชั่น) เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาส 4 ปี 2547 และ 21% จากไตรมาส 3 ปี 2548 ทั้งนี้ในไตรมาส 4 ปี 2547 เอเอ็มดีมียอดขาย 1.26 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 20 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 30 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.08 ดอลลาร์ต่อหุ้น สำหรับไตรมาส 3 ปี 2548 เอเอ็มดีมียอดขาย 1.52 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 79 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 76 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.18 ดอลลาร์ต่อหุ้น
กรณีที่ไม่รวมผลประกอบการจากกลุ่มเมมโมรี่ เอเอ็มดีจะมียอดขายในไตรมาส 4 จำนวน 1.35 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 78% จากไตรมาส 4 ปี 2547 และ 34% จากไตรมาส 3 ปี 2548 ทั้งนี้เปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2547 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 760 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 59 ล้านดอลลาร์ และไตรมาส 3 ปี 2548 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 1.01 พันล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 129 ล้านดอลลาร์
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 5.85 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2547 กำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านดอลลาร์หรือ 0.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตัวเลขดังกล่าวรวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น และส่วนของผู้ถือหุ้นในบริษัทสแปนชั่นจำนวน 37.9% มูลค่าตามไอพีโอของสแปนชั่นแล้ว ในปี 2547 เอเอมดีทำยอดขายได้ 5 พันล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 91 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ไม่รวมผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์เมมโมรี่ เอเอ็มดีจะมียอดขายที่ 3.94 พันล้านดอลลาร์สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548 เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2547 และกำไรจากการดำเนินงาน 543 ล้านดอลลาร์สำหรับปี 2548 เทียบกับยอดขาย 2.66 พันล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 187 ล้านดอลลาร์ ของปี 2547
"อัตราการเติบโตของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 เป็นผลจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นในตลาดเซิร์ฟเวอร์, เดสก์ท็อป และโมบาย" โรเบิร์ต เจ ริเว็ต ประธานฝ่ายการเงิน บริษัท เอเอ็มดี กล่าวว่า "นอกจากแผนผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมแล้ว การที่ตัวเลขทางบัญชีของเราดีขึ้น ยังเป็นผลจากการปรับลดหนี้และเพิ่มกระแสเงินสดและการลงทุนในระยะสั้นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ด้วย"
ภาพรวมธุรกิจ
กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวติ้ง หรือซีพีจี (Computation Product Group; CPG) ทำยอดขายได้ 1.31 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 79% จาก 730 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 4 ปี 2547 และเพิ่มขึ้น 35% จาก 969 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 3 ปี 2548 สำหรับกำไรจากการดำเนินงานทำได้ 278 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 90 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 4 ปี 2547 และ 149 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 3 ปี 2548
เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2548 ยอดขายกลุ่มซีพีจีที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของทั้งจำนวนหน่วยและราคาขายเฉลี่ย (Average Selling Price; ASP) การเพิ่มขึ้นของปริมาณความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ของเอเอ็มดี และการเติบโตในธุรกิจเซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์ของเอเอ็มดี ส่วนยอดขายโพรเซสเซอร์สำหรับโมบาย เดสก์ท็อป และเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2548 อย่างเห็นได้ชัด การเพิ่มขึ้นของยอดขายโมบายโพรเซสเซอร์เป็นผลจากยอดจัดจำหน่ายโพรเซสเซอร์ AMD Turion 64 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การเพิ่มขึ้นของยอดขายเซิร์ฟเวอร์และเดสก์ท็อปโพรเซสเซอร์มาจากการเปิดรับโพรเซสเซอร์ Dual-Core ของผู้บริโภคทั่วโลก และหากแบ่งตามภูมิภาคแล้ว ยอดขายโพรเซสเซอร์ส่วนใหญ่จะมาจากอเมริกาเหนือ ยุโรป และจีน
ในไตรมาส 4 ปี 2548 กลุ่มผลิตภัณฑ์เมมโมรี่ หรือเอ็มพีจี (Memory Products Group; MPG) จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2548 อยู่ที่ 487 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% จาก 504 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 4 ปี 2547 และ 6% จาก 516 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 3 ปี 2548 กลุ่มเอ็มพีจีขาดทุนจากการดำเนินงาน 62 ล้านดอลลาร์ เทียบกับขาดทุน 50 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ปี 2548
เหตุการณ์ที่สำคัญในรอบปี
- เฮ็กเตอร์ รูอิซ ประธานบอร์ด, ประธานบริษัท และประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเอเอ็มดี ได้รับการยกย่องให้เป็น "ซีอีโอแห่งปี" โดยนิตยสารอิเล็กทรอนิกบิซิเนส (Electronic Business)
- เอเอ็มดียังคงเป็นสิ่งแรกที่บริษัททั่วโลกนึกถึงเมื่อพูดเกี่ยวกับประสิทธิภาพต่อวัตต์ของเทคโนโลยี AMD64 ทุกวันนี้ 90% ของ top 100 และ 45% ของ top 500 ของบริษัทและบริษัทในเครือใน Forbes Global 2000 ใช้เทคโนโลยี AMD64 ล่าสุดได้แก่ เอไอจี (American International Group; AIG), อัลเบิร์ตสัน (Albertson’s), เคลียร์แชนแนล-คอมมิวนิเคชั่นส์ (Clear Channel Communications) และนิสสันมอร์เตอร์ (Nissan Motor)
- แพลตฟอร์ม AMD64 ได้รับรางวัลมากกว่า 160 รางวัลนับตั้งแต่เปิดตัวออกมา เฉพาะในไตรมาส 4 ปี 2548 ได้รับมากกว่า 20 รางวัล ไฮไลท์ได้แก่ รางวัล "Tech Innovator Award" สำหรับ AMD Athlon 64 X2 จากวาร์บิซิเนส (VARBusiness), รางวัล "Gear of the Year" สำหรับ AMD Athlon 64 X2 4800+ จากแม็กซิมั่มพีซี (Maximum PC), รางวัล "Hot 100 Products of 2005" สำหรับ Dual-Core AMD Opteron จากกองบรรณาธิการอีดีเอ็น (EDN)
- เอเอ็มดีเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โรงงาน Fab 36 ในเดรสเดน ประเทศเยรมนี รองรับเทคโนโลยีการผลิตแผ่นเวเฟอร์ขนาด 300 มม. โรงงงานแห่งนี้จะทำให้กำลังการผลิตของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าใน 3 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มเดินสายพานการผลิตได้ในไตรมาส 1 ปี 2549 ส่วนการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไปเป็นขนาด 65 นาโนเมตร ขณะนี้ยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม
- เอเอ็มดีร่วมมือกับซันไมโครซิสเต็มส์ในการพัฒนาเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับสถาบันเทคโนโลยีโตเกียว เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวจะเป็นเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ซันฯเคยสร้างมา ใช้เซิร์ฟเวอร์ Sun Fire x64 ที่รันโพรเซสเซอร์ AMD Opteron มากถึง 10,480 คอร์ รันระบบปฏิบัติการทั้งลีนุกซ์และโซลาริส เมื่อเสร็จสมบูรณ์ มันจะติด top 5 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในโลก
- ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และพันธมิตรชั้นนำของโลกขยายสายผลิตภัณฑ์ที่ใช้โซลูชั่น AMD ออกสู่ตลาดคอมเมอร์เชียลอย่างต่อเนื่อง เอชพี (HP) เปิดตัว HP dx5150 ในฐานะบิซิเนสเดสก์ท็อปและเบลดพีซีที่ใช้โพรเซสเซอร์ AMD Athlon 64 บริษัทฟูจิตสึซีเมนส์คอมพิวเตอร์ส (Fujitsu Siemens Computers) เปิดตัว PRIMERGY BX630 เบลดเซิร์ฟเวอร์ และ PRIMERGY RX220 เซิร์ฟเวอร์ two-way บริษัทซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์ (Supermicro Computer) เปิดตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โพรเซสเซอร์ AMD Opteron ออกมาหลายรุ่น รวมถึงเมนบอร์ด
- ซิงหัวตงฟาง (Tsinghua Tongfang) ผู้ผลิตพีซีอันดับ 3 ของจีน เปิดตัวคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปเอเอ็มดีออกมา 9 รุ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งตลาดบิซิเนสและคอนซูเมอร์
- เอเอ็มดีเปิดตัว AMD Live! วิสัยทัศน์ด้านดิจิตอลมีเดียสำหรับพีซีเพื่อประสบการณ์ด้านความบันเทิงดิจิตอลที่ดีกว่าบนทุกสกรีนในชีวิตของผู้คนทั่วโลก ด้วยความตั้งใจของเอเอ็มดีที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของลูกค้า AMD LIVE! จึงเป็นนวัตกรรมที่ใช้ง่ายที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์และเพิ่มขีดความสามารถให้กับทุกๆอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน
- ส่วนหนึ่งของความพยายามของเอเอ็มดีในการเข้าสู่ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เอเอ็มดีได้เซ็นสัญญากับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สำหรับการใช้โพรเซสเซอร์ AMD Geode GX2 ในการพัฒนาโซลูชั่น x86 ซึ่งช่วยขยายตลาดและเสริมวิสัยทัศน์ "x86 everywhere" ของเอเอ็มดี
วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์ของเอเอ็มดีเป็นการคาดการณ์จากปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป ผลการดำเนินงานของสแปนชั่นจะไม่รวมเป็นส่วนหนึ่งของผลการดำเนินงานของเอเอ็มดี เอเอ็มดีจะใช้วิธีการที่ดีที่สุดในทางบัญชีเพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงกำไรสุทธิของสแปนชั่น แถลงการณ์ต่อไปนี้เป็นการทำนายอนาคต ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากที่ได้ทำนายไว้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
เอเอ็มดีคาดว่า ยอดขายในไตรมาสแรกจะคงที่หรือลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 4 ปี 2548 ซึ่งถ้าเป็นจริง ยอดขายในไตรมาสแรกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70% จากยอดขายในไตรมาสแรกปี 2548
การประชุมทางไกล
เอเอ็มดีจะจัดประชุมทางไกลสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงินในเวลา 05.30 น. วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 เพื่ออธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 เอเอ็มดีจะถ่ายทอดเสียงการประชุมแบบเรียลไทม์ผ่านหน้านักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) ในเว็บไซต์ www.amd.com หรือ www.streetevents.com และจะเปิดให้ผู้สนใจได้เรียกฟังผ่านหน้าเว็บไซต์เป็นเวลา 10 วันหลังการประชุมเสร็จสิ้น
เกี่ยวกับเอเอ็มดี
แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (NYSE: AMD) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาโซลูชั่นไมโครโพรเซสเซอร์ที่เป็นนวัตกรรมสำหรับตลาดด้านการประมวลผล การสื่อสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอเอ็มดีก่อตั้งขึ้นในปี 2512 โดยมุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชั่นด้านการประมวลผลที่เหนือกว่าและสอดรับกับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก www.amd.com
หมายเหตุ
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บางข้อความเป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2006 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995 นักลงทุนพึงระลึกอยู่เสมอว่าข้อความที่เป็นการคาดการณ์ซึ่งปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน อาจเป็นหรือไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก็ได้
ความเสี่ยง ได้แก่ ความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจจะแย่ลงและยอดขายในไตรมาส 1 ปี 2549 อาจต่ำกว่าที่คาดไว้, กลยุทธ์ราคา โปรแกรมการตลาด การจัดชุดผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และกิจกรรมอื่นๆของบริษัทอินเทล ที่มีเป้าหมายที่ธุรกิจโพรเซสเซอร์ อาจส่งผลให้ยอดขายของเอเอ็มดีไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้, ปริมาณความต้องการพีซีและปริมาณความต้องการโพรเซสเซอร์อาจต่ำกว่าที่คาดไว้, การยอมรับในเทคโนโลยี AMD64 ของผู้ผลิตพีซีชั้นนำและลูกค้าอาจไม่เป็นไปตามคาด, เอเอ็มดีอาจไม่บรรลุผลสำเร็จตามกำหนดการต่างๆในแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ได้ วางไว้, เอเอ็มดีอาจประสบปัญหาด้านเงินทุนสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรม, โซลูชั่นโพรวายเดอร์อาจไม่สามารถจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่น ซึ่งซัพพอร์ตเทคโนโลยี AMD64 ได้ทันตามกำหนด และผลการดำเนินงานของ Spansion อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทเอเอ็มดี
เราแนะนำให้นักลงทุนพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน จากรายงานที่ บริษัทฯส่งให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (Securities and Exchange Commission) รวมไปถึงรายงานผลการดำเนินงานประจำปี แบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 26 ธันวาคม 2547, รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส แบบฟอร์ม 10-Q สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 25 กันยายน 2548
กรุณาติดต่อ:
มิส ลิน ยอง
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด
บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีส จำกัด
(65) 6559 9951
[email protected]
ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
สุชาย เฉลิมธนศักดิ์
0 2971 3711
[email protected]จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version