กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
- ปัจจัยบวกในไตรมาส 4 คือยอดขายและกำไรจากโพรเซสเซอร์ -
- ไตรมาส 4 เอเอ็มดีทำกำไรต่อหุ้นได้ 0.45 ดอลลาร์(ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด) -
เอเอ็มดี (NYSE: AMD) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4 สิ้นสุด 25 ธันวาคม 2548 และเนื่องจากกรณีไอพีโอ (Initial Public Offering; IPO) ของบริษัทสแปนชั่น (Spansion) ดังนั้นผลการดำเนินงานของเอเอ็มดีจึงจะรวมผลการดำเนินงานของ สแปนชั่นเข้าไว้ด้วยจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2548 เท่านั้น และเพราะไม่สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2548 กับไตรมาส 4 ปี 2547 ได้โดยตรง เอเอ็มดีจึงได้จัดทำรายงานขึ้นอีกฉบับหนึ่งในรูปแบบ non-GAAP ซึ่งจะไม่รวมผลการดำเนินงานของสแปนชั่นและกลุ่มเมมโมรี่เข้าไว้ในรายงานฉบับดังกล่าวด้วย คณะผู้บริหารเชื่อว่ารายงานฉบับ non-GAAP จะซัพพอร์ตนักลงทุนได้ด้วยการแสดงผลการดำเนินงานทั้งในปัจจุบันและที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้การประมาณการผลการดำเนินงานในอนาคตถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
ผลประกอบการประจำไตรมาส 4 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 1.84 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 206 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 69 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.21 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตัวเลขชุดนี้รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น และส่วนของผู้ถือหุ้นของเอเอ็มดีในบริษัทสแปนชั่นจำนวน 37.9% ตามไอพีโอของสแปนชั่นแล้ว ถ้าไม่รวมสิ่งเหล่านี้ เอเอ็มดี จะมีกำไรสุทธิ 205 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.45 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ยอดขาย 1.84 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ปี 2548 (ไม่รวมยอดขายของสแปนชั่นใน 5 วันสุดท้ายของไตรมาส 4 เนื่องจากไอพีโอของสแปนชั่น) เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาส 4 ปี 2547 และ 21% จากไตรมาส 3 ปี 2548 ทั้งนี้ในไตรมาส 4 ปี 2547 เอเอ็มดีมียอดขาย 1.26 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 20 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 30 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.08 ดอลลาร์ต่อหุ้น สำหรับไตรมาส 3 ปี 2548 เอเอ็มดีมียอดขาย 1.52 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 79 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 76 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.18 ดอลลาร์ต่อหุ้น
กรณีที่ไม่รวมผลประกอบการจากกลุ่มเมมโมรี่ เอเอ็มดีจะมียอดขายในไตรมาส 4 จำนวน 1.35 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 78% จากไตรมาส 4 ปี 2547 และ 34% จากไตรมาส 3 ปี 2548 ทั้งนี้เปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2547 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 760 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 59 ล้านดอลลาร์ และไตรมาส 3 ปี 2548 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 1.01 พันล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 129 ล้านดอลลาร์
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548 เอเอ็มดีทำยอดขายได้ 5.85 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2547 กำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านดอลลาร์หรือ 0.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตัวเลขดังกล่าวรวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น และส่วนของผู้ถือหุ้นในบริษัทสแปนชั่นจำนวน 37.9% มูลค่าตามไอพีโอของสแปนชั่นแล้ว ในปี 2547 เอเอมดีทำยอดขายได้ 5 พันล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 91 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ไม่รวมผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์เมมโมรี่ เอเอ็มดีจะมียอดขายที่ 3.94 พันล้านดอลลาร์สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548 เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2547 และกำไรจากการดำเนินงาน 543 ล้านดอลลาร์สำหรับปี 2548 เทียบกับยอดขาย 2.66 พันล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 187 ล้านดอลลาร์ ของปี 2547
"อัตราการเติบโตของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 เป็นผลจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นในตลาดเซิร์ฟเวอร์, เดสก์ท็อป และโมบาย" โรเบิร์ต เจ ริเว็ต ประธานฝ่ายการเงิน บริษัท เอเอ็มดี กล่าวว่า "นอกจากแผนผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมแล้ว การที่ตัวเลขทางบัญชีของเราดีขึ้น ยังเป็นผลจากการปรับลดหนี้และเพิ่มกระแสเงินสดและการลงทุนในระยะสั้นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ด้วย"
ภาพรวมธุรกิจ
กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวติ้ง หรือซีพีจี (Computation Product Group; CPG) ทำยอดขายได้ 1.31 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 79% จาก 730 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 4 ปี 2547 และเพิ่มขึ้น 35% จาก 969 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 3 ปี 2548 สำหรับกำไรจากการดำเนินงานทำได้ 278 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 90 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 4 ปี 2547 และ 149 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 3 ปี 2548
เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2548 ยอดขายกลุ่มซีพีจีที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของทั้งจำนวนหน่วยและราคาขายเฉลี่ย (Average Selling Price; ASP) การเพิ่มขึ้นของปริมาณความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ของเอเอ็มดี และการเติบโตในธุรกิจเซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์ของเอเอ็มดี ส่วนยอดขายโพรเซสเซอร์สำหรับโมบาย เดสก์ท็อป และเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2548 อย่างเห็นได้ชัด การเพิ่มขึ้นของยอดขายโมบายโพรเซสเซอร์เป็นผลจากยอดจัดจำหน่ายโพรเซสเซอร์ AMD Turion 64 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การเพิ่มขึ้นของยอดขายเซิร์ฟเวอร์และเดสก์ท็อปโพรเซสเซอร์มาจากการเปิดรับโพรเซสเซอร์ Dual-Core ของผู้บริโภคทั่วโลก และหากแบ่งตามภูมิภาคแล้ว ยอดขายโพรเซสเซอร์ส่วนใหญ่จะมาจากอเมริกาเหนือ ยุโรป และจีน
ในไตรมาส 4 ปี 2548 กลุ่มผลิตภัณฑ์เมมโมรี่ หรือเอ็มพีจี (Memory Products Group; MPG) จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2548 อยู่ที่ 487 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% จาก 504 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 4 ปี 2547 และ 6% จาก 516 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 3 ปี 2548 กลุ่มเอ็มพีจีขาดทุนจากการดำเนินงาน 62 ล้านดอลลาร์ เทียบกับขาดทุน 50 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ปี 2548
เหตุการณ์ที่สำคัญในรอบปี
- เฮ็กเตอร์ รูอิซ ประธานบอร์ด, ประธานบริษัท และประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเอเอ็มดี ได้รับการยกย่องให้เป็น "ซีอีโอแห่งปี" โดยนิตยสารอิเล็กทรอนิกบิซิเนส (Electronic Business)
- เอเอ็มดียังคงเป็นสิ่งแรกที่บริษัททั่วโลกนึกถึงเมื่อพูดเกี่ยวกับประสิทธิภาพต่อวัตต์ของเทคโนโลยี AMD64 ทุกวันนี้ 90% ของ top 100 และ 45% ของ top 500 ของบริษัทและบริษัทในเครือใน Forbes Global 2000 ใช้เทคโนโลยี AMD64 ล่าสุดได้แก่ เอไอจี (American International Group; AIG), อัลเบิร์ตสัน (Albertson’s), เคลียร์แชนแนล-คอมมิวนิเคชั่นส์ (Clear Channel Communications) และนิสสันมอร์เตอร์ (Nissan Motor)
- แพลตฟอร์ม AMD64 ได้รับรางวัลมากกว่า 160 รางวัลนับตั้งแต่เปิดตัวออกมา เฉพาะในไตรมาส 4 ปี 2548 ได้รับมากกว่า 20 รางวัล ไฮไลท์ได้แก่ รางวัล "Tech Innovator Award" สำหรับ AMD Athlon 64 X2 จากวาร์บิซิเนส (VARBusiness), รางวัล "Gear of the Year" สำหรับ AMD Athlon 64 X2 4800+ จากแม็กซิมั่มพีซี (Maximum PC), รางวัล "Hot 100 Products of 2005" สำหรับ Dual-Core AMD Opteron จากกองบรรณาธิการอีดีเอ็น (EDN)
- เอเอ็มดีเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โรงงาน Fab 36 ในเดรสเดน ประเทศเยรมนี รองรับเทคโนโลยีการผลิตแผ่นเวเฟอร์ขนาด 300 มม. โรงงงานแห่งนี้จะทำให้กำลังการผลิตของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าใน 3 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มเดินสายพานการผลิตได้ในไตรมาส 1 ปี 2549 ส่วนการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไปเป็นขนาด 65 นาโนเมตร ขณะนี้ยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม
- เอเอ็มดีร่วมมือกับซันไมโครซิสเต็มส์ในการพัฒนาเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับสถาบันเทคโนโลยีโตเกียว เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวจะเป็นเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ซันฯเคยสร้างมา ใช้เซิร์ฟเวอร์ Sun Fire x64 ที่รันโพรเซสเซอร์ AMD Opteron มากถึง 10,480 คอร์ รันระบบปฏิบัติการทั้งลีนุกซ์และโซลาริส เมื่อเสร็จสมบูรณ์ มันจะติด top 5 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในโลก
- ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และพันธมิตรชั้นนำของโลกขยายสายผลิตภัณฑ์ที่ใช้โซลูชั่น AMD ออกสู่ตลาดคอมเมอร์เชียลอย่างต่อเนื่อง เอชพี (HP) เปิดตัว HP dx5150 ในฐานะบิซิเนสเดสก์ท็อปและเบลดพีซีที่ใช้โพรเซสเซอร์ AMD Athlon 64 บริษัทฟูจิตสึซีเมนส์คอมพิวเตอร์ส (Fujitsu Siemens Computers) เปิดตัว PRIMERGY BX630 เบลดเซิร์ฟเวอร์ และ PRIMERGY RX220 เซิร์ฟเวอร์ two-way บริษัทซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์ (Supermicro Computer) เปิดตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โพรเซสเซอร์ AMD Opteron ออกมาหลายรุ่น รวมถึงเมนบอร์ด
- ซิงหัวตงฟาง (Tsinghua Tongfang) ผู้ผลิตพีซีอันดับ 3 ของจีน เปิดตัวคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปเอเอ็มดีออกมา 9 รุ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งตลาดบิซิเนสและคอนซูเมอร์
- เอเอ็มดีเปิดตัว AMD Live! วิสัยทัศน์ด้านดิจิตอลมีเดียสำหรับพีซีเพื่อประสบการณ์ด้านความบันเทิงดิจิตอลที่ดีกว่าบนทุกสกรีนในชีวิตของผู้คนทั่วโลก ด้วยความตั้งใจของเอเอ็มดีที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของลูกค้า AMD LIVE! จึงเป็นนวัตกรรมที่ใช้ง่ายที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์และเพิ่มขีดความสามารถให้กับทุกๆอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน
- ส่วนหนึ่งของความพยายามของเอเอ็มดีในการเข้าสู่ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เอเอ็มดีได้เซ็นสัญญากับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สำหรับการใช้โพรเซสเซอร์ AMD Geode GX2 ในการพัฒนาโซลูชั่น x86 ซึ่งช่วยขยายตลาดและเสริมวิสัยทัศน์ "x86 everywhere" ของเอเอ็มดี
วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์ของเอเอ็มดีเป็นการคาดการณ์จากปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป ผลการดำเนินงานของสแปนชั่นจะไม่รวมเป็นส่วนหนึ่งของผลการดำเนินงานของเอเอ็มดี เอเอ็มดีจะใช้วิธีการที่ดีที่สุดในทางบัญชีเพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงกำไรสุทธิของสแปนชั่น แถลงการณ์ต่อไปนี้เป็นการทำนายอนาคต ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากที่ได้ทำนายไว้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
เอเอ็มดีคาดว่า ยอดขายในไตรมาสแรกจะคงที่หรือลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 4 ปี 2548 ซึ่งถ้าเป็นจริง ยอดขายในไตรมาสแรกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70% จากยอดขายในไตรมาสแรกปี 2548
การประชุมทางไกล
เอเอ็มดีจะจัดประชุมทางไกลสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงินในเวลา 05.30 น. วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 เพื่ออธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 เอเอ็มดีจะถ่ายทอดเสียงการประชุมแบบเรียลไทม์ผ่านหน้านักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) ในเว็บไซต์ www.amd.com หรือ www.streetevents.com และจะเปิดให้ผู้สนใจได้เรียกฟังผ่านหน้าเว็บไซต์เป็นเวลา 10 วันหลังการประชุมเสร็จสิ้น
เกี่ยวกับเอเอ็มดี
แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (NYSE: AMD) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาโซลูชั่นไมโครโพรเซสเซอร์ที่เป็นนวัตกรรมสำหรับตลาดด้านการประมวลผล การสื่อสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอเอ็มดีก่อตั้งขึ้นในปี 2512 โดยมุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชั่นด้านการประมวลผลที่เหนือกว่าและสอดรับกับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก www.amd.com
หมายเหตุ
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บางข้อความเป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2006 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995 นักลงทุนพึงระลึกอยู่เสมอว่าข้อความที่เป็นการคาดการณ์ซึ่งปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน อาจเป็นหรือไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก็ได้
ความเสี่ยง ได้แก่ ความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจจะแย่ลงและยอดขายในไตรมาส 1 ปี 2549 อาจต่ำกว่าที่คาดไว้, กลยุทธ์ราคา โปรแกรมการตลาด การจัดชุดผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และกิจกรรมอื่นๆของบริษัทอินเทล ที่มีเป้าหมายที่ธุรกิจโพรเซสเซอร์ อาจส่งผลให้ยอดขายของเอเอ็มดีไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้, ปริมาณความต้องการพีซีและปริมาณความต้องการโพรเซสเซอร์อาจต่ำกว่าที่คาดไว้, การยอมรับในเทคโนโลยี AMD64 ของผู้ผลิตพีซีชั้นนำและลูกค้าอาจไม่เป็นไปตามคาด, เอเอ็มดีอาจไม่บรรลุผลสำเร็จตามกำหนดการต่างๆในแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ได้ วางไว้, เอเอ็มดีอาจประสบปัญหาด้านเงินทุนสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรม, โซลูชั่นโพรวายเดอร์อาจไม่สามารถจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่น ซึ่งซัพพอร์ตเทคโนโลยี AMD64 ได้ทันตามกำหนด และผลการดำเนินงานของ Spansion อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทเอเอ็มดี
เราแนะนำให้นักลงทุนพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน จากรายงานที่ บริษัทฯส่งให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (Securities and Exchange Commission) รวมไปถึงรายงานผลการดำเนินงานประจำปี แบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 26 ธันวาคม 2547, รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส แบบฟอร์ม 10-Q สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 25 กันยายน 2548
กรุณาติดต่อ:
มิส ลิน ยอง
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด
บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีส จำกัด
(65) 6559 9951
[email protected]
ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
สุชาย เฉลิมธนศักดิ์
0 2971 3711
[email protected]จบ--