“อมตะ” จับมือเวียตนามเปิดอาณาจักรธุรกิจ รับเศรษฐกิจขาขึ้นดึงกลุ่มทุนเข้านิคมฯเบียนหัว

กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--อมตะ
“อมตะ” ร่วมทุนรัฐบาลเวียตนาม พัฒนาที่ดินเปล่า 125 ไร่ ขยายอาณาจักรนิคมอุตสาหกรรมเบียนหัวเตรียมผุด อมตะ คอมเมอร์เชียล เปิดโซนแหล่งบันเทิง ชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ ที่พักอาศัย และอาคารสำนักงาน ครบวงจรคาดเปิดดำเนินการภายในปี 2549 นี้
นางสมหะทัย พานิชชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด(มหาชน) (Mrs.Somhatai Panicheewa, Vice President-Business Development, Amata Corporation PCL) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับหน่วยงานพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของรัฐบาลเวียตนาม (Sonadezi) เพื่อจัดตั้ง อมตะ คอมเมอร์เชียล (Amata Commercial) เพื่อร่วมพัฒนาพื้นที่บริเวณหน้า นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ (เบียนหัว) (Amata City Bien Hoa Industrial Park) ประเทศเวียตนาม รวมประมาณ 125 ไร่ ด้วยการพัฒนาพื้นที่เพื่อก่อสร้างแหล่งบันเทิง ชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม โรงแรมระดับ4-5ดาว และอาคารสำนักงานพร้อมโชว์รูม สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม และบริเวณใกล้เคียง โดยมีทุนจดทะเบียนประมาณ 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นสัดส่วนการลงทุนจาก อมตะ ร้อยละ 70 % และการลงทุนจาก Sonadezi ร้อยละ 30 % ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2549 นี้
“การร่วมลงทุนกับรัฐบาลเวียดนามในครั้งนี้ บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสและแนวโน้มการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเวียตนามที่เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ เนื่องจากเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ (เบียนหัว) ถูกจัดให้เป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีเขตพื้นที่สำหรับพักอาศัย และอำนวยความสะดวก ให้กับนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมทั้งนักลงทุนในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนั้นการลงทุนดำเนินกิจการทางธุรกิจในประเทศเวียตนาม ยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำ อยู่ที่ประมาณ 45 เหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ในขณะที่มีจำนวนประชากรสูงถึง 80 ล้านคน” นางสมหะทัย กล่าว
นางสมหะทัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการร่วมลงทุนก่อสร้าง อมตะ คอมเมอร์เชียล นั้น บริษัทฯได้มีแผนที่จะใช้เงินลงทุนที่ได้จากการปันผลของอมตะเวียดนามของปี 2549 มาลงทุน ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง อมตะ คอมเมอร์เชียล เฟสที่ 1 ประมาณ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจร่วมดำเนินธุรกิจเข้ามาเจรจาร่วมลงทุนได้โดยจะมีการพิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าภายหลังจากการลงทุนโครงการก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงในนิคมอุตสาหกรรมได้อีกเป็นจำนวนมาก
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
มุก โทร.038-213007, 01-7343651