กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซี รุกตลาดสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ประเภทเสื้อผ้า หวังกวาดยอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์กลุ่มเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น 20% และดึงกลุ่มลูกค้าให้มาซื้อสินค้าเพิ่มอีกประมาณ 50-60% ชูดีไซน์สร้างความต่าง อัดคอลเลกชั่นแฟชั่นหน้าร้อน
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธาน ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มาจับจ่ายกลุ่มสินค้าประเภทเสื้อผ้าที่บิ๊กซี ประมาณ 60% เลือกซื้อด้วยเหตุผลเรื่องดีไซน์ที่หลากหลายและคุณภาพ แต่มีราคาย่อมเยากว่าคู่แข่ง ในขณะที่ลูกค้ากว่า 25% รู้จักสินค้า Only @ Big C ดังนั้น ในปีนี้ บิ๊กซีจึงรุกทำตลาดสินค้าเฮ้าส์แบรนด์หรือสินค้าที่พัฒนาขึ้นมาภายใต้แบรนด์ตัวเองมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด Only @ Big C เพื่อตอกย้ำและสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มเป้าหมายว่า นอกจากบิ๊กซีจะเป็นผู้นำในด้านราคาแล้ว ยังเป็นผู้นำในด้านของสินค้ามีดีไซน์อีกด้วย ด้วยแผนการตลาดในครั้งนี้ คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายเพิ่มของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์กลุ่มเสื้อผ้าขึ้นอีก 20% และดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ให้มาซื้อสินค้าเพิ่มอีกประมาณ 50-60% โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ บิ๊กซีจะมีฐานลูกค้ากลุ่มเสื้อผ้าประมาณ 80% จากลูกค้าทั้งหมด
“บิ๊กซีเน้นจำหน่ายสินค้าคุณภาพในราคาที่คุณพอใจ ยิ่งเมื่อสินค้าเรามีดีไซน์ เพิ่มความหลากหลายของ คอลเลกชั่นมากขึ้น ทำให้สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของเราไม่ต่างจากสินค้าแบรนด์เนมเลย ขณะที่มีราคาถูกกว่า ทำให้ลูกค้าบิ๊กซีส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าเสื้อผ้าของเรา เนื่องจากราคาถูก แต่มีดีไซน์หลากหลายและคุณภาพดี นับเป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน อายุระหว่าง 21- 34 ปี และสินค้าที่ได้รับความนิยมมากสุดคือเสื้อ T-shirt และเสื้อผ้าเด็ก” นางสาวจริยากล่าวเพิ่มเติม
นางรัตนา อนุนตการุณ รองประธานฝ่ายจัดซื้อสินค้าทั่วไป บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ในกลุ่มเสื้อผ้าทั้ง 6 แบรนด์ ครอบคลุมตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ ได้แก่ แบรนด์ "เดอะโคฟ" เสื้อผ้าแฟชั่นยีนส์สำหรับทุกเพศทุกวัย “เอฟเอฟดับบลิวดี” เสื้อผ้าแฟชั่นลำลองสำหรับผู้ชายวัยรุ่น “ซี-โซน” เสื้อผ้าแฟชั่นลำลองสำหรับวัยรุ่นสตรี “เอมิลี่” เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับเด็กผู้หญิง อายุ 4-14 ปี “ดอนโดลิโอ” เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับเด็กผู้ชาย อายุ 4-14 ปี และ “โมดา บิมบิ” เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับเด็กเล็ก กลุ่มอายุ 1-3 ขวบ นั้นได้รับการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ในทุกกลุ่ม จากการพัฒนาด้านการออกแบบดีไซน์และปรับเปลี่ยนเพิ่มไลน์ สินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และที่สำคัญมีราคาถูกกว่าสินค้าคุณภาพเดียวกันของคู่แข่งทำให้เป็นที่จดจำของลูกค้า
"ปัจจุบันการแข่งขันในสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าที่จะทำให้แบรนด์มีความแตกต่างคือด้านดีไซน์ ดังนั้นบิ๊กซีจึงหันมาเน้นในเรื่องของการออกแบบและการออกคอลเลกชั่นมากขึ้น สำหรับคอลเลกชั่นหน้าร้อนนี้ใช้ชื่อว่า ซัมเมอร์ สแปลช เน้นความสดใสและสวมใส่สบาย เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าที่ถูกใจสไตล์คุณ คุ้มค่าและมีราคาที่สมเหตุสมผลได้ที่บิ๊กซีเท่านั้น”
“สินค้าเสื้อผ้าทั้ง 6 แบรนด์ มีผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและมีการเติบโตของยอดขายทุกปี ด้วย คุณภาพสินค้าและราคาที่เหมาะสม ทำให้สามารถรองรับทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งเราได้เพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลาย ทั้งไลน์ เบสิค และแฟชั่น ด้วยการดีไซน์รูปแบบใหม่ๆ ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทำให้ลูกค้าสามารถจดจําแบรนด์ได้ และเกิดกลุ่มลูกค้าที่ซื้อประจําขึ้น การรุกตลาดสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า ครั้งนี้ จะช่วยตอกยํ้ากลุ่มลูกค้าเดิม และสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ให้รู้จักเรามากยิ่งขึ้น” นางรัตนา กล่าวในตอนท้าย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ชื่อ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผล ภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความคุ้มค่าในระดับสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 45 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
วราพร สมบูรณ์วรรณะ หรือ สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871