กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
เคจีไอ จับมือ เซ็ทเทรด พร้อมเปิดบริการซื้อขายอนุพันธ์ทางอินเทอร์เน็ต 28 ส.ค.นี้ มั่นใจขยายฐานนักลงทุนได้มากขึ้น คาดสัดส่วนลูกค้ารายย่อยพุ่งเป็น 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 50% ย้ำมาร์เก็ตแชร์คงอันดับ 1 “ธนวัฒน์” ยันเป็นมาร์เก็ตเมกเกอร์ หวังเพิ่มสภาพคล่องในตลาดทำสัญญาทะลุได้ 2-3 พันสัญญาในปีนี้
นายธนวัฒน์ พานิชเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเปิดบริการซื้อขายอนุพันธ์ทางอินเทอร์เนตให้กับนักลงทุนได้ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยผ่านทางระบบของ SETTRADE ซึ่งลูกค้าของบริษัทสามารถใช้ระบบเลขบัญชีเดียว และใช้รหัสผ่านเพียงครั้งเดียว ก็สามารถซื้อขายได้ทั้งหุ้นและอนุพันธ์ และไม่ต้องผ่านการคีย์คำสั่งจากเจ้าหน้าที่การตลาด
โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายผ่านระบบ Steaming D ซึ่งเป็นระบบที่นักลงทุนไทยมีความคุ้นเคยและมีความเข้าใจอยู่แล้ว เนื่องจากมีลักษณะเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน และระบบ ONE Click ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาสำหรับนักลงทุนที่ ต้องการระบบการซื้อขายที่สามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นที่นิยมมากสำหรับการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศ
ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าภายหลังจากการให้บริการทางอินเทอร์เน็ตในตลาดอนุพันธ์จะส่งผลให้ลูกค้ารายย่อย เริ่มเข้ามาซื้อขายอนุพันธ์มากขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนลูกค้ารายย่อยจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% และสัดส่วนลูกค้าสถาบันเป็น 30% จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนอยู่ที่ 50: 50 ขณะเดียวกันบริษัท เชื่อมั่นว่าจะรักษามาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่งที่ระดับ 15% ได้อย่างแน่นอน
นายธนวัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า บริษัทได้ขออนุญาตการเป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เก็ตเมกเกอร์) ในตลาดอนุพันธ์ โดยปัจจุบันได้ข้อสรุปในการทำมาร์เก็ตเมกเกอร์เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการทำหน้าที่เป็นมาร์เก็ตเมกเกอร์จะค่อนข้างซับซ้อน แต่การมีมาร์เก็ตเมกเกอร์จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและสร้างเสถียรภาพของราคาให้กับตลาดอนุพันธ์ โดยจะเป็นประโยชน์สูงสุดกับทั้งลูกค้าที่ซื้อขายตราสารอนุพันธ์และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และยังช่วยพัฒนาตลาดทุนไทยอีกทางหนึ่งด้วย บริษัทจึงได้ตัดสินใจทำหน้าที่เป็นมาร์เก็ตเมกเกอร์ โดยมีที่ปรึกษาจากเคจีไอ ไต้หวันมาช่วยดูแล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือน ก.ย.นี้
“ปัจจุบันนักลงทุนสนใจลงทุนในตลาดอนุพันธ์มากขึ้น เนื่องจากตราสารอนุพันธ์เป็นเครื่องมือที่ลงทุนได้ทั้งตลาดขึ้นและตลาดลง ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากเดือนกันยายนมีการเปิดให้มีการซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและการมีมาร์เก็ตเมกเกอร์ บริษัทเชื่อว่าตลาดอนุพันธ์จะมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้ตลาดอนุพันธ์น่าจะมีปริมาณการซื้อขายขึ้นสู่ระดับ 2-3 พันสัญญาต่อวันได้อย่างไม่ยากนัก”
สำหรับธุรกิจอนุพันธ์นั้น เคจีไอได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับธุรกรรมอนุพันธ์มานานกว่า 10 ปี โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยี และระบบงาน จากกลุ่มเคจีไอ ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้สามารถกล่าวได้ว่า เคจีไอเป็นโบรกเกอร์ที่มีความพร้อมมากที่สุดในตลาด Futures ดังจะเห็นได้ว่า บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในตลาด TFEX ตั้งแต่เปิดตลาดจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น เรามีสายด่วน Futures โทร 02-231-1111 ต่อ 570-575 ซึ่งจะมีพนักงานที่มีประสบการณ์และความชำนาญเกี่ยวกับธุรกิจ Futures คอยให้คำแนะนำลูกค้าโดยเฉพาะด้วย ” นายธนวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้บริษัทได้จัดสัมมนาเรื่องการซื้อขายอนุพันธ์ผ่านอินเตอร์เน็ต ให้กับลูกค้าของเคจีไอ ในวันที่ 2 กันยายน 2549 ที่บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยลูกค้าสามารถติดต่อจองเข้ารับร่วมการอบรมได้ที่เจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหรือฝ่ายธุรกิจตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 02-231-1111 ต่อ 571-575 email: [email protected] ส่วนนักลงทุนที่สนใจระบบซื้อขายอนุพันธ์ผ่านอินเทอร์เนตสามารถติดต่อขอทดลองใช้บริการได้ที่เว็บไซต์ www.kgieworld.co.th ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานให้อย่างใกล้ชิด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อรวรรณ เถลิงเกียรติกำจร
บริษัท คิธ แอนด์ คินฯ โทร. 02-663-3226 ต่อ 67
- พ.ย. ๖๙๗๖ ชวนผู้สนใจร่วมสัมมนาเนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 14 ของ TFEX 23 เม.ย. นี้
- พ.ย. ๒๕๖๗ บล.ไทยพาณิชย์ เสนอขาย DW ศักยภาพสูงล็อตใหม่ เพิ่มโอกาสทำกำไรส่งท้ายปี โดดเด่นด้วยอัตราทดสูง 5 เท่า Time Decay ต่ำ อ้างอิงหุ้นสภาพคล่องสูง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: บลจ.ไทยพาณิชย์ คว้า 3 รางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปีจากงาน Money & Banking Awards 2013