ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิปี 48 จำนวน 20,306 ล้านบาท

ศุกร์ ๒๐ มกราคม ๒๐๐๖ ๑๔:๔๗
กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
พัฒนาการที่สำคัญในปี 2548
กำไรก่อนหักภาษีเท่ากับ 22,514 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.8
สินเชื่อด้อยคุณภาพลดจากร้อยละ 16.9 เหลือร้อยละ 10.9 ของสินเชื่อรวม
ธนาคารเริ่มชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลเต็มจำนวนในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
ธนาคารกรุงเทพรายงานผลประกอบการประจำปี 2548 มีกำไรสุทธิ 20,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,686 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15.2 จากปี 2547 ในขณะที่กำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 4,894 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.8 เป็น 22,514 ล้านบาท โดยธนาคารได้ประมาณค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับปี 2548 จำนวน 2,208 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการชำระภาษีนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี 2541
ผลกำไรที่ดีขึ้นในปี 2548 เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 7,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.9 เป็น 40,210 ล้านบาท
ณ สิ้นปี 2548 สินเชื่อรวมของธนาคารลดลงจาก 932,940 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 เป็น 912,003 ล้านบาท ทั้งนี้ เพราะยอดสินเชื่อที่ลดลงจากการปรับโครงสร้างหนี้และการตัดจำหน่ายหนี้สูญมีจำนวนสูงกว่ายอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อใหม่สุทธิหลังจากยอดชำระคืน
เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดมีผลต่อรายได้และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของธนาคารไม่พร้อมกัน ดังนั้น รายได้ดอกเบี้ยในปี 2548 จึงเพิ่มขึ้นเร็วกว่าในอัตราร้อยละ 16.1 เป็น 56,030 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2547 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.8 เป็นจำนวน 15,820 บาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 4 ปี 2548 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยในปีที่ผ่านมาลดลงร้อยละ 0.8 เป็น 17,694 บาท เนื่องจากกำไรจากเงินลงทุนสุทธิลดลงจำนวน 2,163 ล้านบาท ลดลงมากกว่าการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ซึ่งเพิ่มขึ้นจำนวน 1,418 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.6 ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 เป็น 31,081 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น
สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงจาก 158,676 ล้านบาทเป็น 100,573 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.9 ของสินเชื่อรวม โดยในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 4,309 ล้านบาท สัดส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อยอดสินเชื่อด้อยคุณภาพจึงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 64.6 เป็นร้อยละ 79.1 และเมื่อเทียบกับเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารมียอดสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญคิดเป็นร้อยละ 165.5 เพิ่มขึ้นจากอัตราร้อยละ 145.1 เมื่อสิ้นปี 2547
อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 78.7 ณ สิ้นปี 2547 เป็นร้อยละ 78.9 ณ สิ้นปี 2548 โดยยอดเงินฝากลดลงร้อยละ 2.5 จาก 1,186,111 ล้านบาท เป็น 1,156,530 ล้านบาท
ณ สิ้นปี 2548 หากนับรวมผลกำไรในปี 2548 ด้วย ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ประมาณร้อยละ 15.0 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ประมาณร้อยละ 11.5
ส่วนของผู้ถือหุ้นเมื่อสิ้นปี 2548 เพิ่มขึ้นเป็น 139,232 ล้านบาท จากจำนวน 114,966 ล้านบาทในปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 9.23 บาท เป็น 10.64 บาท--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO