กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
โครงการเด็กไทยสดใส ร่วมใจออกกำลัง ซึ่งริเริ่มโดยบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดอบรมเกี่ยวกับการ ออกกำลังกายและหลักโภชนาการที่ถูกต้อง ให้แก่โรงเรียนในภาคเหนือที่เข้าร่วมโครงการเด็กไทยสดใสฯ รุ่นที่ 8 กว่า 70 โรงเรียน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นทรัลดวงตะวัน จ.เชียงใหม่
กนิษฐา พึ่งวร ผู้อำนวยการโครงการ “เด็กไทยสดใส ร่วมใจออกกำลัง” แห่งบริษัท โคคา—โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมของโครงการ “เด็กไทยสดใส ร่วมใจออกกำลัง” รุ่นที่ 8 มีการนำเสนอแนวคิดใหม่ของการออกกำลังกายแบบสะสม ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ นำมาถ่ายทอดสู่ผู้ที่เข้าอบรม และยังคงเน้นเรื่องของโภชนาการ ผ่าน 2 กิจกรรมหลัก คือ “ก้าวขยับ กระฉับกระเฉง” ที่แจกเครื่องนับก้าวให้กับนักเรียนทุกคนที่ร่วมโครงการ โดยตั้งเป้าให้เดินสะสมน้อยวันละ 10,000 ก้าว และกิจกรรมแด๊นซ์แอโรบิก “เต้นทุกที ดีทุกวัน” ด้วยการจัดทำวีซีดีออกกำลังที่ฝึกความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ รวมทั้งการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อสำหรับเด็กๆ โดยท่าเต้นสำหรับการออกกำลังกายจะมีท่าที่หลากหลายขึ้น และสามารถออกกำลังกายได้ทุกสัดส่วนในเวลาอันสั้น”
ด้าน พรเพ็ญ อรัณยะนาค นักวิชาการสาธารณสุข 7 ว. กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข หนึ่งในวิทยากรได้กล่าวถึงความสำคัญของการออกกำลังสะสมว่า “งานวิจัยของต่างประเทศได้กล่าวถึงรูปแบบของการออกกำลังกายที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เน้นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเน้นการออกกำลังกายสะสมแทน ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่สามารถปรับใช้กับชีวิตประจำวันในยุคที่ไม่ค่อยมีเวลา เพื่อปลูกฝังให้เด็กได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายในช่วงเวลาใด และเพียงไม่กี่นาทีก็ได้ หลายๆ ช่วงสะสมรวมกันอย่างน้อยให้ได้ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยในเรื่องการกระตุ้นไหลเวียนของเลือด ระบบหายใจ และกล้ามเนื้อ โดยในปัจจุบันพบว่าเด็ก 1 ใน 10 คน หรือประมาณ 1.5 ล้านคน ป่วยเป็นโรคอ้วน และยังมีเด็กไทยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดัน โดยไม่รู้ตัวอีก 9 ล้านคน ดังนั้นเราจึงควรปลูกฝังให้เด็กเห็นคุณค่าของการออกกำลังกายสะสม ซึ่งเหมาะสำหรับยุคสมัยปัจจุบัน โดยการออกกำลังกายสะสมสามารถทำได้ทั้งในขณะทำงาน งานบ้าน กิจกรรมยามว่าง หรือการเดินทาง การเดินในกิจกรรม “ก้าวขยับ กระฉับกระเฉง” ของโครงการซึ่งรณรงค์ให้เด็กๆ เดินออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ก็ถือเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย นอกจากนี้การออกกำลังกายสะสมส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายแข็งแรงขึ้น พัฒนาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และยังควบคุมการเผาผลาญพลังงาน ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดีขึ้น ”
อีกหนึ่งวิทยากร ชนิดา ปโชติการ จากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความสำคัญเรื่องโภชนาการของเด็กไทยว่า “โภชนาการของเด็กไทยมีความสำคัญ เพราะพฤติกรรมการกินจะเป็นรากฐานของคุณภาพชีวิตตลอดจนจิตใจที่ดีในภายหน้าเมื่อเขาเติบโตขึ้น อาหารก็คือตัวเรา สิ่งที่ประกอบในตัวเราล้วนมาจากอาหารที่เรากินเข้าไปทั้งสิ้น โภชนาการที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ไทยไม่ควรมองข้าม ควรจะดูแลให้เด็กๆ ได้บริโภคอาหารอย่างเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่และที่สำคัญต้องหมั่นออกกำลังกายเ พื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอด้วย ”
โครงการเด็กไทยสดใส ร่วมใจออกกำลัง เป็นโครงการที่ปลูกฝังให้เยาวชนหันมาสนใจออกกำลังกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการมากขึ้น โดยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการจนถึงปัจจุบันกว่า 1,200 แห่ง ซึ่งเป็นกลุ่มโรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยครูและโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุนทางด้านข้อมูล อุปกรณ์ และการอบรมความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังและโภชนาการต่างๆอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นความสำเร็จที่ก้าวร่วมไปด้วยกัน และในปีนี้จนถึงปีหน้า โครงการเด็กไทยสดใสฯจะขยายไปครอบคลุมโรงเรียนในภาคเหนือและภาคใต้ ภายในสิ้นปีการศึกษา 2550 คาดว่าจะมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการจากทุกภาคทั่วประเทศจำนวน 1 ล้านคน
ยังไม่สายเกินไป ....... โรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “เด็กไทยสดใส ร่วมใจออกกำลัง” โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถติดต่อ ศูนย์ประสานงานโครงการฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2950-8216 วันจันทร์— ศุกร์ ระหว่าง เวลา 08.30 — 17.00 น.
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net