ไทยร่วมมือสปป.ลาวเพิ่มเป้าการค้าการลงทุน

พฤหัส ๒๘ ธันวาคม ๒๐๐๖ ๑๕:๐๔
กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ปชส.จร.
ไทยร่วมกับสปป.ลาวประชุมจัดทำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าไทย-สปป.ลาว โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าสองฝ่ายเป็น 2 เท่า ในปี 2551 และเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 3 เท่า ภายในปี 2553 รวมทั้งสนับสนุนเพิ่มการลงทุนทั้งสองฝ่าย
นายชนะ คณารัตนดิลก รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าไทย-สปป.ลาว ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม 2549 ณ กรุงเวียงจันทน์ ซึ่งมีนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยระดับรัฐมนตรี และมีนางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ว่า ทั้งสองฝ่ายกำหนดการจัดทำเป้าหมายการค้า การลงทุน โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าสองฝ่ายเป็น 2 เท่า ในปี 2551 และเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 3 เท่า ภายในปี 2553 รวมทั้งสนับสนุนเพิ่มการลงทุนทั้งสองฝ่าย (ไม่ได้กำหนดเป้า เนื่องจากสถิติไม่ตรงกัน) โดยมีการจัดทำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ในประเด็นต่างๆ คือ
การร่วมมือของเจ้าหน้าที่ ให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาวุโสและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ทั้งในระดับจังหวัดและแขวงเพื่อจัดทำความร่วมมือ ทบทวนและติดตามการดำเนินงานความร่วมมือ การอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการลงทุนด้านต่างๆ ได้แก่ โครงการ Contract Farming การตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรและการพัฒนาพื้นที่เพื่อการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ สะหวันเซโน และพัฒนาเมืองอุดมไชยเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้า จุดพักรถ ศูนย์การค้าเมืองใหม่และซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้านการท่องเที่ยว จะร่วมกันผลักดันให้มีการร่วมทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะบนเส้นทางหมายเลข 9 จากสะพานมิตรภาพ 2 เข้าไปในแขวงสะหวันนะเขต
ด้านการขนส่งและศุลกากร จะร่วมกันผลักดันและประสานงานให้มีการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการขนส่งผ่านแดนและข้ามแดน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านศุลกากรเพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกิจ สำหรับเรื่องการช่วยเหลือเพื่อเพิ่มศักยภาพของลาว ไทยจะช่วยเหลือในการเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในด้านต่างๆ ตามที่สปป.ลาวขอ เช่น การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กฎหมายการแข่งขันการค้า และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น รวมทั้งให้ความร่วมมือทางวิชาการในการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งตลาดกลางสินค้า และจัดฝึกอบรมให้ความรู้ เพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง Single Stop Inspection ในด่านที่มีปริมาณการค้าสูง เช่น ด่านสะหวัน แขวงสะหวันนะเขต ด่านปากห้วย เมืองแก่นท้าว เป็นต้น
นอกจากนี้ ไทยจะช่วยพัฒนาสินค้า OTOP ของสปป.ลาว อย่างครบวงจร และสนับสนุนให้ลาวเข้าร่วมงานงานแสดงสินค้านานาชาติในไทย รวมทั้งจะจัดงานแสดงสินค้าชายแดนของกลุ่ม 1 จังหวัดและ 9 แขวงที่มีชายแดนติดต่อกัน
สำหรับความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของไทยและสปป.ลาว ทั้งสองฝ่ายได้ริเริ่มจัดตั้ง สภาอุตสาหกรรม/สภาหอการค้าไทยในลาว และสภาอุตสาหกรรม/สภาหอการค้าวางในไทย เพื่อให้มีการจับคู่ธุรกิจ ร่วมทุนและความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันโดยได้มีการลงนาม MOU กันไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2549 ทั้งนี้ ได้ตกลงที่จะร่วมมือทางวิชาการในสาขาต่างๆ เช่น เกษตร เกษตรแปรรูป การผลิตพืชทดแทนพลังงาน เหมืองแร่ สิ่งแวดล้อม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๓๑ ไทยเครดิตรายงานผลประกอบการปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,624.0 ล้านบาท
๐๙:๔๑ หมอหมีขอเม้าท์! เผยสูตรลับสุขภาพดีด้วยตัวเอง ตามแบบฉบับ เม้าท์กับหมอหมี
๐๙:๑๖ แอ็กซอลตา ประกาศเทรนด์สีรถยนต์ปี 2025 ได้แก่ สีเอเวอร์กรีน สปรินท์ (Evergreen Sprint)
๐๙:๓๔ เกาะติดเลือกตั้ง อบจ. 68 กับไทยพีบีเอส เสียงท้องถิ่นชี้อนาคตประเทศไทย
๐๙:๑๙ น่ารักจนใจเจ็บ! Harupiii อินฟลูญี่ปุ่นรักไทย เปลี่ยนวลีดัง ทำไมทำไม สู่เพลงใหม่ยอดวิวถล่มทลาย
๐๙:๓๔ การแข่งขัน MUICT ENVI Mahidol Hackathon 2025 ภายใต้หัวข้อ : Digital Innovation for Carbon Neutrality Society
๐๙:๒๔ จากภูมิปัญญาพื้นบ้านสู่สินค้าส่งออก เครื่องเคลือบจากอำเภออี้หนาน มณฑลซานตง โด่งดังไกลถึงต่างแดน
๐๙:๓๘ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิ ปี 2567 จำนวน 2,852.1 ล้านบาท เติบโต 77.7%
๐๙:๕๔ RBF สานพลังปลูกป่าชายเลน ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู ร่วมแก้วิกฤตโลกร้อน ในโครงการ RBF GREEN VOLUNTEER ปีที่
๐๙:๐๖ ต้อนรับความมั่งคั่งและโชคลาภ พร้อมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ