ชาญอิสสระ ฟุ้งยอดขายบ้านพระราม 9 ใกล้ทะลุเป้า พร้อมเปิดตัวคฤหาสน์หรู 150 ล้านฉลองปิดโครงการเร็วๆนี้

พุธ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๐๖ ๑๓:๔๔
กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--คิธ แอนด์ คิน
ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ฯ โชว์ยอดขายบ้านอิสสระ พระราม 9 ใกล้ทะลุเป้า 1,400 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจซบ คาดปิดโครงการได้ปลายปีนี้ พร้อมเตรียมเปิดตัวคฤหาสน์สุดหรูในโครงการฯ มูลค่า 150 ล้านบาทต้นเดือน พ.ย.นี้ มั่นใจธุรกิจอสังหาฯเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง หลังสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย
นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ชาญอิสสระฯได้เปิดตัวโครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เมื่อปลายปี 2546 ที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าระดับไฮเอนด์เข้าซื้อบ้านแล้วกว่า 90 % โดยเหลือบ้านรอการขายเพียง 6-7 หลัง จากทั้งหมด 54 หลัง ซึ่งคาดว่าในปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้าจะสามารถปิดโครงการได้ และเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคักกับโครงการบ้านเดี่ยวกลางกรุงของ บริษัท ชาญอิสสระฯ ประมาณต้นเดือน พ.ย.นี้ ทางบริษัทฯได้เตรียมเปิดตัวคฤหาสน์หรูสไตล์ France Manor มูลค่า 150 ล้านบาท พร้อมกับรถหรูมูลค่า 20 ล้านบาท 1 คันด้วย ซึ่งถือเป็นบ้านใหญ่หลังแรก และหลังเดียวในย่านใจกลางเมืองที่มีราคาสูงที่สุด โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,300 ตารางเมตร พร้อมด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัว มีลิฟต์ และที่จอดรถกว่า 8 คัน
“โครงการบ้านอิสสระฯได้รับความสนใจจากลูกค้าระดับบนอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง บนถนนรามคำแหง 24 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ซึ่งถือเป็นทำเลที่โครงการอสังหาฯมียอดขายดีที่สุด อีกทั้งโครงการบ้านอิสสระฯยังเป็นรายแรกที่นำเสนอบ้านภายใต้แนวคิด “City Home” คือทำให้บ้านทุกหลังมีพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว และเต็มประสิทธิภาพทุกตารางเมตร ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยพื้นที่สวนมากกว่า 35% พร้อมระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองได้เป็นอย่างดี จึงมั่นใจว่าคฤหาสน์หรู มูลค่า 150 ล้านบาทจะเป็นที่สนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวในโครงการฯ” นายสงกรานต์ กล่าว
นายสงกรานต์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีความชัดเจนขึ้นว่า ปัจจัยด้านการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯเกิดการชะลอตัวลงบ้าง อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น โดยมีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศแล้ว จึงเชื่อว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯจะฟื้นตัวกลับมาสดใสอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อบ้านใหม่อยู่อย่างต่อเนื่อง
ส่วนความคืบหน้าโครงการใหม่ของ บริษัท ชาญอิสสระฯ ที่จะเปิดตัวเพิ่มอีกจำนวน 3 โครงการในปลายปีนี้นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น 580 ยูนิต ที่ถนนลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งร่วมกับ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ ที่สุขุมวิท 42 มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวอยู่ในทำเลที่ติดกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และ โครงการคอนโดมิเนียมริมทะเลที่ชะอำ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท
“ทางบริษัทฯได้เปลี่ยนแนวคิดในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในย่านใจกลางเมือง โดยหันมารุกธุรกิจคอนโดมิเนียมเต็มรูปแบบในทำเลที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ หรือพฤติกรรมเปลี่ยนไป ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า” นายสงกรานต์ กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ ลิ้มล้อมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอรตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด (NEXUS) ตัวแทนจำหน่ายของโครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 กล่าวถึงแนวโน้มการแข่งขันในตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนใจกลางเมืองว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามี supply เข้ามาในตลาดไม่มากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว ทำให้ผู้ประกอบการมุ่งพัฒนาตลาดอสังหาฯระดับกลางเป็นหลัก ขณะที่ความต้องการบ้านระดับบนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ และอยู่ในทำเลที่ดี เพราะลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีกำลังซื้อสูงไม่มีข้อจำกัดเรื่องราคา แต่พิถีพิถันด้านคุณภาพบ้าน และทำเลที่ตั้งเป็นหลัก จึงทำให้มีเพียงไม่กี่โครงการที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน
“คาดว่า โครงการบ้านเดี่ยวระดับบนในตลาดรวมมีแนวโน้มลดลง และกว่าจะมีโครงการใหม่ขึ้นมาในตลาดคงอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพราะการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนต้องพิถีพิถัน ใช้ระยะเวลาในการวางแผนและก่อสร้างนานพอสมควร อีกทั้งผู้ประกอบการต้องมีประสบการณ์เฉพาะทาง แตกต่างจากการพัฒนาโครงการอสังหาฯระดับกลางทั่วไป จึงทำให้มีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายที่สนใจ และเหมาะสม ซึ่งโครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 เป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่เหลืออยู่ในตลาดขณะนี้ ที่จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าระดับพรีเมี่ยม เนื่องจากมีทำเลใกล้เมือง และสะดวกต่อการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งลูกค้าในโครงการฯส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนคุณภาพของสังคม ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในสังคมบ้านเดี่ยวระดับบนด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท คิธ & คิน ฯ โทร. 0 2663 3226 ต่อ 62
คุณจิตต์สิริ กลิ่นบุญนาค 081 441 1510
คุณธนากร พรมหาญ 084 695 1949
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ