กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--ก.ส.ล.
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดซื้อขายมาแล้ว 2 ปีเศษ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก้าวที่สำคัญต่อไปคือการพัฒนาให้ AFET เป็นตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า กล่าวว่า การส่งเสริมและพัฒนาการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า รวมทั้งการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ ก.ส.ล. ดังนั้นหลังจากจัดตั้งองค์กร และเปิดซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 47 มีการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 จำนวน 44 ข้อตกลง ก็ได้จัดทำแผนและดำเนินมาตรการเร่งรัดเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายใน AFET เพื่อก้าวสู่การเป้นการตลาดซื้อขายล่วงหน้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเพื่อความมั่นคงยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยในช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาหลัง AFET เปิดซื้อขาย ได้มีมาตรการเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายใน AFET หลายมาตรการที่สำคัญคือ
- การเพิ่มสินค้าซื้อขายใน AFET ซึ่งได้ทะยอยนำสินค้าที่มีศักยภาพ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเข้าซื้อขายตามลำดับ ปัจจุบันมียางแผ่นรมควันชั้น 3 ยางแท่ง น้ำยางข้น ข้าวขาว 5% แป้งมันสำปะหลัง และกำลังจะนำมันสำปะหลังเส้น กับกุ้งขาวแววนาไม เข้าซื้อขายเป็นลำดับต่อๆ ไป
- การเพิ่มประเภทผู้ประกอบธุรกิจ จากที่มีผู้ค้าและนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าในระยะแรก ได้เพิ่มตัวแทนซื้อขายล่วงหน้า (บุคคลธรรมดา) ตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายล่วงหน้า (นิติบุคคล) และล่าสุดจะมีผู้จัดการการซื้อขายล่วงหน้าที่จะเปิดให้ยื่นขออนุญาตเป็นธุรกิจประเภทใหม่ปลายปีนี้
- ปรับปรุงคุณสมบัตินายหน้าซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มความเข้มแข็ง ได้วางกฎระเบียบให้นายหน้าซื้อขายล่วงหน้าต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนที่เรียกชำระแล้ว ให้มีผู้บริหารที่ทำงานเต็มเวลา ให้มีพนักงานที่ผ่านการอบรมมีจำนวนมากขึ้น นอกจากนั้น AFET ยังกำหนดให้มีปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำของนายหน้าแต่ละรายด้วย
- การเพิ่มเวลาซื้อขาย จากเดิมมีเฉพาะช่วงเช้า 10.00-12.00 น. เพิ่มเวลาในช่วงบ่าย 13.00-15.00 น. ด้วยสินค้าเกษตรล่วงหน้า กองทุนเสริมสภาพคล่องใน AFET กองทุนประกันราคาสินค้าเกษตร การจัดให้มีศูนย์ข้อมูลและวิจัยสินค้าเกษตรล่วงหน้า รวมทั้งจะได้ศึกษาสินค้าที่มีศักยภาพที่จะนำเข้ามาซื้อขายใน AFET เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ได้มีแผนงานที่จะดำเนินการมาตรการต่างๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว คาดว่าภายใน 5 ปี (2549-2553) AFET จะสามารถก้าวสู่การเป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์ประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2685-3250 ต่อ 203
โทรสาร 0-2685-3259
หรือ http://www.aftc.or.th