ก.ล.ต. ส่งผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชีของ PICNI เพิ่มเติมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

จันทร์ ๑๖ ตุลาคม ๒๐๐๖ ๑๐:๕๑
กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--ก.ล.ต.
ตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษอดีตผู้บริหารบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“PICNI”) กรณีจัดทำเอกสารและบัญชีเกี่ยวกับการทำสัญญาและการรับรู้รายได้ซึ่งบันทึกเป็นการให้เช่าถังแก๊ส ปรากฏตามงบการเงินประจำปี 2547 ไม่ถูกต้อง รวมทั้งการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริตเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินจำนวน 85 ล้านบาท แก่นิติบุคคลจำนวน 2 ราย ต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2548 อันเป็นผลจากการตรวจสอบส่วนหนึ่งที่เสร็จแล้ว โดยยังมีประเด็นที่ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม นั้น
เนื่องจากการตรวจสอบประเด็นที่เพิ่มเติมนี้ มีผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากและกระจายอยู่ในหลายสถานที่ รวมถึงต้องให้ผู้ต้องสงสัยชี้แจงแสดงหลักฐาน ทำให้การรวบรวมข้อเท็จจริงต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต. ได้สรุปผลการตรวจสอบดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมเป็นกรณีสืบเนื่องจากการที่งบการเงินประจำปี 2547 ของ PICNI ได้บันทึกรายการจ่ายเงินมัดจำในการทำสัญญาจะซื้อจะขายถังเก็บแก๊สขนาดใหญ่ มูลค่ารวม 852 ล้านบาท
กับนิติบุคคลรายหนึ่งซึ่งต่อมางบการเงินไตรมาส 1 ปี 2549 ของ PICNI เปิดเผยว่าได้มีการยกเลิกสัญญา และได้รับชำระคืนเงินมัดจำบางส่วน และที่เหลือต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม 454 ล้านบาท นอกจากนี้ ในงบการเงินประจำปี 2547 ยังได้แสดงมูลค่าถังแก๊สขนาดเล็กที่บันทึกไว้เป็นสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปี 2546 รวม 1,903 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำสัญญาซื้อจากนิติบุคคลอีกรายหนึ่งรวม 1,321 ล้านบาท โดยต่อมาในงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2548 PICNI ได้ตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของถังแก๊สขนาดเล็กจำนวน 1,000 ล้านบาท
การตรวจสอบปรากฏพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า รายการจะซื้อจะขายและซื้อขายถังเปล่าสำหรับเก็บแก๊สขนาดใหญ่ และรายการสั่งซื้อถังแก๊สขนาดเล็ก เป็นรายการที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเหตุในการจ่ายเงินออกจาก PICNI เพื่อประโยชน์ของอดีตผู้บริหารของบริษัทและบุคคลอื่น อันทำให้เอกสารหลักฐานและบัญชีที่เกี่ยวข้องกับรายการดังกล่าวไม่ถูกต้องไม่ตรงต่อความเป็นจริง และมีลักษณะเป็นการลวงบุคคลอื่น
โดยน่าเชื่อว่าอดีตผู้บริหารของบริษัท 2 ราย ได้แก่ (1) นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน ขณะดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และ (2) นางสาวสุภาพร ลาภวิสุทธิสิน ขณะดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ มีส่วนรู้เห็นและมีส่วนร่วมกระทำการในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง ก.ล.ต. พิจารณาเห็นว่าเป็นการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังทรัพย์สินของบริษัทเป็นของตนเองหรือบุคคลอื่น และแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย อันอาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 307 มาตรา 308 มาตรา 311 มาตรา 312 และมาตรา 313 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบุคคลข้างต้น รวมทั้งผู้สนับสนุนในการกระทำผิดอีก 3 ราย คือ นายอนันต์ เกียรติกำจรพัฒนา นายธนะชัย โรมพันธ์ และบริษัทแสงทองไทยผลิตถัง จำกัด ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้พิจารณาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO