กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ธ.กรุงศรีอยุธยา
นายพงศ์พินิต เดชะคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลประกอบการของธนาคารประจำไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และภาษีเงินได้ จำนวน 3,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสที่ 3 ธนาคารได้ตั้งสำรองฯ เพิ่มอีก 750 ล้านบาท และเมื่อหักภาษีเงินได้ 524 ล้านบาท ธนาคารจึงมีกำไรสุทธิจำนวน 1,866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นสำหรับไตรมาสนี้ มีสาเหตุหลักจาก รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิปรับตัวสูงขึ้น11% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 45% โดยรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 ธนาคารมีกำไรก่อนหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และภาษีเงินได้ จำนวน 8,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในงวด 9 เดือน ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 2,250 ล้านบาท และเมื่อหักภาษีเงินได้ 524 ล้านบาท ธนาคารจึงมีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือน จำนวน 5,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 16%
ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีสินทรัพย์รวม 668,300 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อ (หลังหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว) 426,900 ล้านบาท เงินฝาก 580,100 ล้านบาท และมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ จำนวน 530 สาขา โดยมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 18 สาขา ในปีนี้