กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--คอร์แอนด์พีค
ไวส์ฯ บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ ประกาศนโยบายปี 2549 ชูความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
วิศวกรรมและการก่อสร้างและสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เร่งขยายสาขาเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่
ย่านบางนา สุวรรณภูมิ และภาคตะวันออก ตั้งเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และเตรียมผลิตแบบ
บ้านและหนังสือใหม่อีก 3 เล่มในปีนี้
นายภพศักดิ์ ปานสีทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทไวส์ คอนซัลแทนท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ เปิดเผยถึงนโยบายในปี 2549ว่า เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภค และผู้ที่ต้องการสร้างบ้านในปัจจุบัน จะเน้นในเรื่องของความละเอียดอ่อนและมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงขึ้น ประกอบกับลูกค้ามีความรู้ความเข้าใจในหลักการทำงานและการสร้างบ้านมากขึ้น ทำให้การทำงานของบริษัทรับสร้างบ้าน จึงต้องมีความพิถีพิถันให้ทันกับกระแสความนิยมและต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า ต้องมีการพัฒนารูปแบบหรือสินค้าและนวัตกรรมใหม่ ๆ มานำเสนอให้แก่ลูกค้าได้เลือกสรรอยู่เสมอ นอกเหนือไปจากการดูแลลูกค้าให้ดีได้อย่างทั่วถึง
สำหรับทิศทางของไวส์ฯ ยังมุ่งมั่นในเรื่องของการเป็นผู้นำนวัตกรรมทางวิศวกรรมและการพัฒนาทางด้านงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะนำระบบวอร์รูมที่ทันสมัยมูลค่ากว่า 10ล้านบาท มาใช้โดยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถสื่อสารระหว่างสำนักงานและไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งสามารถตรวจสอบการทำงานได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ หรือตรวจไซต์งานจากเครื่องโทรศัพท์มือถือเฉพาะรุ่น
ล่าสุดในปีนี้ไวส์ ฯ ได้พัฒนาระบบผนัง"สตรองวอลล์ (Strong Wall)" มาก่อสร้างให้กับบ้านของไวส์ฯโดยระบบสตรองวอลล์จะเสริมความแข็งแรง ความทนทานและลดการแตกร้าวจากแรงสั่นสะเทือนในแนวราบ เช่น การสั่นสะเทือนของการวิ่งของรถยนต์บนถนน หรือลดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ผนังสตรองวอลล์เป็นนวัตกรรมทางด้านวิศวกรรมชิ้นแรกที่ไวส์ ฯ ได้พัฒนาและนำมาจดสิทธิบัตรเพื่อให้เกิดการยอมรับอย่างเป็นสากลในอนาคต
โดยรูปแบบของระบบสตรองวอลล์จะเป็นการนำเหล็กเส้นมาขึ้นรูปเป็นตัว C ลักษณะพิเศษเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับแรงบิด แล้วมาใส่ไว้ตามผนังเป็นช่วงๆ เพื่อทำให้ผนังบ้านมีความยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น โดยโครงเหล็กจะมาเสริมตามแนวระหว่างเสากับเสาและคานกับคาน ทำให้ระบบเสาคานรวมถึงข้อต่อสามารถรับแรงสั่นสะเทือนในแนวราบได้ดีขึ้นมากกว่าผนังปกติ
นายภพศักดิ์ กล่าวว่า "ระบบผนังสตรองวอลล์ (Strong Wall) ยังไม่มีการนำไปใช้กับการสร้าง
ที่พักอาศัยในปัจจุบัน แต่ไวส์ฯ ได้นำมาพัฒนาใช้กับการสร้างบ้านที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันไม่ให้ผนังของบ้านเกิดการแตกร้าว"
นอกจากนี้ในเรื่องของการสร้างบ้านให้กับลูกค้าไวส์ ฯ จะทำการออกแบบระบบฐานรากป้องกันการทรุดตัว โดยการตรวจสอบสภาพชั้นดิน และนำไปคำนวณผ่านระบบซอฟต์แวร์วิเคราะห์โครงสร้างโดยวิธี
ไฟท์ไนท์ อีลีเมนท์ เพื่อเจาะเสาเข็มแต่ละต้นให้ถึงชั้นหินดินดาน ส่วนในเรื่องของการออกแบบบ้านไวส์ฯ มีแบบบ้านในสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัยที่มีมากกว่า 200 แบบให้เลือก ซึ่งแต่ละแบบได้เน้นพื้นที่การใช้สอยที่คุ้มค่า เพื่อให้สอดคล้องและตอบสนองกับวิถีชีวิตและความต้องการของลูกค้า
ทางด้านการตลาดไวส์ฯ จะเน้นในเรื่องของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงด้านการประชาสัมพันธ์ที่จะมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าไวส์ฯ เป็นบริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพที่มีศักยภาพในระดับผู้นำของตลาด และไวส์ฯ ยังคงเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดบนและกลางบนเป็นหลัก
"ไวส์ฯในปีนี้จะมีการขยายงานโดยการเพิ่มจำนวนสาขา และหันมารุกตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯและภาคตะวันออกให้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของกรุงเทพฯ จะสร้างสำนักงานสาขาที่ถนนบางนาตราด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโซนถนนศรีนครินทร์ บางนา อ่อนนุช และสุวรรณภูมิ ส่วนทางภาคตะวันออกจะจัดตั้งสำนักงานที่พัทยากลาง เพื่อเปิดตลาดรับสร้างบ้านที่จังหวัดชลบุรี"
นอกจากนี้ยังได้เตรียมงานผลิตด้านสื่อสิ่งพิมพ์และพ็อกเก็ตบุ๊ก ซึ่งจะมีออกมาอีกจำนวน 3 เล่ม คือหนังสือรวบรวมแบบบ้านชื่อ Chefs Volume 2 ,หนังสือรวบรวมแบบคฤหาสน์หรู และงานอินทีเรียดีไซน์ชื่อ Dreamland Series 2 และหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กอีก 1 เล่ม
สำหรับรายได้ในปีนี้ไวส์ฯ วางเป้าหมายไว้ที่ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปี 2548 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 260 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยลูกค้าจะเน้น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วยกลุ่มบ้านราคา 3 ล้านบาทจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มบ้านราคา 5 ล้านบาท จำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มบ้านราคา 8 ล้านบาท จำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังเน้นกลุ่มตลาดบนและตลาดกลางบนเป็นหลัก โดยทั้ง 3 สาขา ประกอบด้วย ขอนแก่น บางนาตราดและพัทยากลาง จะสามารถทำรายได้รวมกันประมาณ 60 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณธนศักย์ อุทิศชลานนท์ (โป้ง) ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์แอนด์พีค จำกัด
โทรศัพท์ 02-439-4600 ต่อ 8202หรือ 01-421-5249
โทรสาร 02-861-0675 อีเมล์ [email protected]จบ--