กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์
ทียูเอฟ แจงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2549 เติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขาย ขยับตัวดีตามคาด ทำรายได้ในรูปดอลล่าร์พุ่ง 398.2 ล้านเหรียญ ตอกย้ำศักยภาพในการส่งออกแข็งแกร่ง ฐานการตลาดแน่นปึ้ก ส่งผลการเติบโตธุรกิจดีจนถึงปีหน้า
บริษัท ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเล แช่แข็งและบรรจุกระป๋องรายใหญ่ หรือทียูเอฟ รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำไตรมาส 3 ปี 2549 สามารถทำรายได้จากการขายในรูปของดอลล่าร์ทะลุเป้าที่ 398.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2548 ซึ่งเท่ากับ 351.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าอัตราเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นกว่าปีก่อนเกือบ 10% ก็ตาม หากพิจารณารายได้ในรูปของเงินบาทในไตรมาส 3 ปี 2549 ก็ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14,637.0 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2548 ซึ่งเท่ากับ 14,510.9 ล้านบาท ในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 อยู่ที่ 677.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในไตรมาสเดียวกันในปี 2548 ซึ่งมีกำไรสุทธิที่ 659.2 ล้านบาท ทั้งนี้จากผลกำไรสุทธิที่ เพิ่มขึ้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ตลอดจนความสามารถในการขยายช่องทางการตลาด ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ จึงส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยปริมาณการขายรวมของไตรมาสที่ 3 ปี 2549 เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสที่ 2 ปี 2549
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภาพรวมของบริษัทฯ ว่า “ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของปลาทูน่ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทฯ โดยมีสัดส่วนยอดขายถึง 48% จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทฯ รองลงมายังคงเป็นกุ้งแช่แข็ง 22% ตามด้วยอาหารแมวบรรจุกระป๋อง 10% อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง 7% อาหารกุ้ง 7% ขายในประเทศ 7% และปลาหมึกแช่แข็ง 2%” ในขณะที่ตลาดส่งออกหลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกาถึง 58% รองลงมาคือ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เอเชีย อัฟริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แคนาดา และอเมริกาใต้ตามลำดับ
นายธีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักจะเติบโตเพิ่มขึ้นแล้ว บริษัทฯ ยังสามารถขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารกุ้งเพิ่มขึ้น โดยสามารถทำรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นถึง 39% ทั้งขายภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่ผ่านมา อาหารกุ้งจึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงและตลาดมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นายธีรพงศ์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า “เราได้ปรับกลยุทธ์ และสร้างโอกาสทางการตลาดใน Market Segment ใหม่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของ Segment นั้นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์แช่แข็งประเภทพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) ภายใต้ตราสินค้า My Siam ที่เดินสายโรดโชว์ ใช้กลยุทธ์เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชมและชิม โดยมุ่งเน้นตลาด ผู้นิยมอาหารไทยในต่างประเทศ ทั้งในตลาดยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา” ซึ่งจากกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ และส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่าย มีอัตราการเติบโตยั่งยืน ไปพร้อมกับการสร้างผลกำไร ทั้งนี้ นายธีรพงศ์มั่นใจด้วยฐานการตลาดที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการส่งออกที่ดี จะทำให้ทิศทางธุรกิจทียูเอฟปีหน้า เติบโตต่อเนื่องอย่างแน่นอน
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
นายลภัส ขวัญมงคล อีเมล์: [email protected]
นส.อรณัส สิมะสันติ อีเมล์: [email protected]
โทร. (662) 298-0024 ต่อ 675 - 678
โทรสาร (662) 298-0024 ต่อ 679
- พ.ย. ๗๒๖๒ ภาพข่าว: หอการค้าเยอรมัน-ไทย จัดประชุมประจำปี 2559 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
- พ.ย. ๑๖๙๐ คณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน พบปะนักลงทุน ในวัน Opportunity Day
- พ.ย. ๘๒๖๑ คณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน และมูลนิธิสถาบันอิสสระ เข้าพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมทะเลของไทย