กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทย ประกาศความพร้อมในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ (ไอพีโอ) ในราคา 2.70 บาท โดยเตรียมเปิดจองซื้อหุ้น 25-27 กรกฎาคมนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ เป็นแกนนำผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คาดว่าจะเข้าเทรดได้ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้
นายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 182 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 2.70 บาทต่อหุ้น และพร้อมทำการเสนอขายในวันที่ 25-27 กรกฎาคมนี้ โดยคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดพลังงาน ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมนี้ โดยใช้ชื่อในการซื้อขาย ว่า “AKR”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทฯ เคยกำหนดราคาไอพีโอไว้ที่ 3 บาท และเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอในวันที่ 15 — 16 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ได้รับผลกระทบจากภาวการณ์ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้ต้องเลื่อนการขายหุ้นไอพีโอ และกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอใหม่อีกครั้งเพื่อให้เหมาะสมกับบรรยากาศการลงทุน
“ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้กำหนดราคาไอพีโอที่ 3 บาท ซึ่งเป็นการกำหนดจากระดับดัชนี 730 จุด แต่ในปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอยู่ที่ประมาณ 680 จุด จึงเห็นความเหมาะสมว่าควรมีการปรับลดราคาให้สอดคล้องกับภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับแผนขยายธุรกิจแต่อย่างใด และราคาหุ้นที่ 2.70 บาท ยังถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้” นายเกียรติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ และมีบริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด เป็นผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วยบริษัทหลักทรัพย์ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีกหลายแห่ง
ปัจจุบัน บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 790.17 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 608.17 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งบริษัทฯ จะทำการกระจายหุ้นจำนวน 182 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 23.03 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุน ซึ่งเม็ดเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้เท่ากับ 491.40 ล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินส่วนหนึ่งประมาณ 470 ล้านบาท ไปใช้ลงทุนในบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด เพื่อลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ได้ประมาณต้นปี 2550 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต
“เอกรัฐฯ มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า การนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลท.ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีการเลื่อนการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะความตื่นตัวในภาวะตลาดที่มีความผันผวนเป็นอย่างมากที่อาจส่งผลต่อนักลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ซึ่งตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ยอมรับในระดับสากลในฐานะผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าคุณภาพสูง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับมีความเชื่อมั่นว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะพลังงานไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศและการดำรงชีวิตในปัจจุบัน อีกทั้งแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ ทั้งหมดนี้จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เป็นจุดเด่นของบริษัทฯ ที่จะสร้างความมั่นใจและผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้อย่างแน่นอน” นายเกียรติพงศ์ กล่าว
อนึ่ง บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิต 3,000 เมกะโวลต์แอมแปร์ต่อปี พร้อมด้วยธุรกิจต่อยอดในรูปแบบการบริการในเชิงพลังงานครบวงจร อาทิ งานซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าทุกระบบ มอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า งานออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมทั้งระบบ Medium และ Low Voltage งานที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการทั้งระบบบริหารคุณภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการประกอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทั้งชนิดผลึกเดี่ยวซิลิคอนและชนิดผลึกโพลีซิลิคอน พร้อมด้วยโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาค ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2550
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คชภพ สงวนวงศ์
พรพรรณ ฉวีวรรณ
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร. 0-2662-2266
www.124comm.com