กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีบาห์เรน H.H. Shaikh Khalifa bin Salman Al Khalifa, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ H.E. Dr. Hassan Abdulla Fakhro และ ดร. สุรเกียรติ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ (Thailand Business Center TBC Bahrain) ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ในวันที่ 26 เมษายน 2549 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า และการลงทุนระหว่างนักธุรกิจไทย และ บาห์เรน
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ TBC Bahrain ก่อตั้งจากความร่วมมือระหว่าง H.H. Shaikh Khalifa bin Salman Al Khalifa นายกรัฐมนตรีบาห์เรน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขยายโอกาสทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง โครงการนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เริ่มดำเนินการโครงการตั้งแต่เดือนกันยายน 2547
นายประพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า วัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง TBC Bahrain เพื่อเป็นศูนย์แสดงสินค้าและการบริการแบบขายส่ง (Showroom & Distribution Center) เป็นศูนย์แสดงนิทรรศการ เพื่อกระจายสินค้าและบริการไปยังบาห์เรน และไปสู่ประเทศอื่น ๆ ใน ภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย ในด้านการตลาด การลงทุนให้กับนักธุรกิจบาห์เรน และนักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนในธุรกิจด้านต่าง ๆ และเป็นพื้นที่สำหรับหน่วยงานรัฐบาลไทย เป็นเวทีให้นักธุรกิจได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ อันจะนำไปสู่การขยายการค้าการลงทุน และเป็นหุ้นส่วนทางธุริจในอนาคต
นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านสินค้าและบริการไปยังประเทศบาห์เรน และภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายที่ดีกับผู้นำเข้าและหน่วยงานต่างๆ ในตลาดบาห์เรนและภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยให้ผู้นำเข้าทราบถึงศักยภาพการส่งออกของไทย ด้วยการเผยแพร่สินค้าและบริการของไทย และสร้างความคุ้นเคยในการบริโภคสินค้าจากไทย รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ นายประพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
ศูนย์ TBC Bahrain ตั้งอยู่เลขที่ 500 ถนน Government Avenue กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน มีพื้นที่จำนวน 1,200 ตารางเมตร สภาอุตสากรรมแห่งประเทศไทยดำเนินการประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย โดยประสานแจ้งข้อมูลไปยังสมาชิก และนักธุรกิจทั่วไปที่สนใจ และจัดการประชุมให้กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้รับทราบถึงรายละเอียดของโครงการ โดยรัฐบาลบาห์เรนได้เอื้อประโยชน์โดยการไม่จัดเก็บค่าพื้นที่เป็นเวลา 2 ปี ขณะนี้มีนักธุรกิจไทยสนใจเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า และบริการ 6 ประเภทสินค้าและบริการ ประกอบด้วย 1.กลุ่มอาหาร (ภัตตาคารไทย และร้านสะดวกซื้ออาหารไทย) 2.กลุ่มแฟชั่น (เสื้อผ้า เครื่องหนัง และอัญมณี) 3.กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก (วัสดุก่อสร้าง ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกลฯ) 4.กลุ่มธุรกิจสปา (สินค้าสปา และสมุนไพรไทย) 5.กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (บริษัทท่องเที่ยว และการรักษาพยาบาลในไทย) 6.กลุ่มทรัพยากรมนุษย์ (การจัดส่งแรงงานไทย)
ศูนย์ TBC Bahrain ระหว่างประเทศไทย และประเทศบาห์เรน ในภูมิภาคตะวันออกกลาง จะช่วยเพิ่มศักยภาพที่ดีให้ผู้ประกอบการไทย และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนกับนักธุรกิจบาห์เรน
โครงการ Thailand Business Center ในประเทศบาห์เรน
ชื่อโครงการ Thailand Business Center (TBC Bahrain)
ตั้งอยู่ที่ อาคารเลขที่ 500 ถนน Government Avenue กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน
ผู้ดูแลโครงการ บริษัท ธุรกิจไทย-นานาชาติ จำกัด ภายใต้การกำกับดูแลของสภาอุตสาหกรรมฯ
แผนงาน พัฒนาการส่งออก และการลงทุนในตะวันออกกลาง
ตลาด บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง
กลุ่มสินค้า สินค้าอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ
กำหนดการเปิดตัวโครงการ เดือนเมษายน 2549
ระยะเวลาดำเนินโครงการ ปี 2549 - 2551
ความเป็นมา
สืบเนื่องมาจากความริเริ่มร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทย (ฯพณฯ ทักษิณ ชินวัตร) และนายกรัฐมนตรีของบาห์เรน (His Highness Shaikh Khalifa bin Salman Al-Khalifa) ส่งผลให้ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในการจัดทำความตกลงร่วมกัน เพื่อจัดตั้ง Thailand Business Center ในประเทศบาห์เรน อันจะนำมาซึ่งการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามใน Memorandum of Understanding กับ Promoseven Holdings E.C. ในวันที่ 22 กันยายน 2547 ณ The Regency Intercontinental Hotel โดยได้รับเกียรติจาก H.E. Mr. Ali bin Saleh Al Saleh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ฯพณฯ นายวิทยา พูลสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมานามา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีดังกล่าว ซึ่งผู้ร่วมลงนามในข้อตกลง คือ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ) และประธานบริษัท Promoseven Holdings E.C. (Mr. Akram Miknas)
สาระสำคัญ คือ ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า และการลงทุนของไทยไปสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยผ่านโครงการ Thailand Business Center
หลักการและเหตุผล
จากการศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวทางการทำตลาดส่งออกสินค้าและบริการของไทยไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง พบว่า สินค้าไทยประสบปัญหาด้านศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าไทยสูงขึ้น และมีประเทศคู่แข่งที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการครองตลาด
ประเทศคู่แข่งสำคัญๆ ได้แก่ จีน อินเดีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นต้น ส่งผลให้การส่งออกของสินค้าไทยเริ่มประสบปัญหา ดังนั้น การสร้างโอกาสใหม่ในการส่งออกสินค้าและบริการของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลางควรมีการปรับตัวจากการเป็นผู้ผลิตสินค้าระดับล่าง—ระดับกลางมาเป็นคุณภาพระดับกลาง—ระดับสูง รวมถึงการสร้างตราสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จัก
กลยุทธ์ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด คือ การสร้างฐานการตลาดที่มั่นคงในตลาดเป้าหมายที่เป็นตลาดใหม่ ซึ่งตลาดในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน จำเป็นที่จะต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่างจึงจะทำให้สามารถเปิดตลาด เพี่อครอบคลุมส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคดังกล่าวให้มากที่สุด และเร็วที่สุด ส่งผลให้มีการจัดตั้งโครงการ Thailand Business Center ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการทำตลาดแบบยั่งยืน และปรับวิธีการดำเนินการให้เหมาะกับตลาดเป้าหมาย
ตลาดบาห์เรนเป็นช่องทางการค้ากับประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีรากฐานการนำเข้าสินค้าทุกประเภทเพื่อเป็นฐานไปสู่ประเทศอื่นๆ รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยทั้งในระดับผู้บริหารประเทศ ระดับนักธุรกิจจนถึงประชาชนทั่วไป ดังจะเห็นได้จากการได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าบาห์เรนของไทย (สามารถพำนักในบาห์เรนได้ไม่เกิน 15 วัน)
วัตถุประสงค์
เป็นศูนย์แสดงสินค้าและการบริการแบบขายส่ง (Showroom & Distribution Center) เป็นศูนย์แสดงนิทรรศการ เพื่อกระจายสินค้าและบริการไปยังบาห์เรน และไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย ในด้านการตลาด การลงทุนให้กับนักธุรกิจบาห์เรนและนักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนในธุรกิจด้านต่างๆ และเป็นพื้นที่สำหรับหน่วยงานรัฐบาลไทย
เป็นเวทีให้นักธุรกิจได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ อันจะนำไปสู่การขยายการค้าการลงทุน และเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในอนาคต
สร้างทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านสินค้าและบริการไปยังประเทศบาห์เรน และภูมิภาคตะวันออกกลาง
สร้างความสัมพันธ์เครือข่ายกับผู้นำเข้าและหน่วยงานต่างๆ ในตลาดบาห์เรนและภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยให้ผู้นำเข้าทราบถึงศักยภาพการส่งออกของไทย
เผยแพร่สินค้าและบริการของไทย เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการบริโภคของจากไทย
เพิ่มจำนวนผู้บริโภคสินค้าไทย เพื่อให้มูลค่าการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น
ขยายโอกาสการค้าการลงทุน และเพิ่มโลกทัศน์ให้กับนักธุรกิจไทยในการศึกษาสภาวะและแนวทางการขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ
วิธีดำเนินการ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการ Thailand Business Center ในประเทศไทย โดยประสานแจ้งข้อมูลไปยังสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ และนักธุรกิจทั่วไปที่สนใจ และจัดการประชุมให้กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้รับทราบถึงรายละเอียดของโครงการ Thailand Business Center รวมทั้งโอกาสในการขยายการค้า และการลงทุนในบาห์เรน และประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางอื่นๆ
จัดสรรพื้นที่ในศูนย์ TBC Bahrain จำนวน 1,200 ตารางเมตร สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการ รวมทั้งหน่วยงานรัฐบาลของไทย
จัดแสดงสินค้าและบริการของประเทศไทยเป็นระยะ เพื่อนำเสนอสินค้า และวัฒนธรรมไทย และนำไปสู่การผลักดันเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทย
เชิญชวนผู้ส่งออกหรือนักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าและการบริการของไทยในบาห์เรน เข้าร่วมโครงการ
คัดเลือกรายการสินค้าที่มีศักยภาพของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม และธุรกิจด้านบริการ เพื่อจัดทำกลยุทธ์ และแนะนำขั้นตอนการเจาะตลาดการค้ากับกลุ่มประเทศเป้าหมายให้กับผู้ประกอบการ
เชิญชวนนักธุรกิจทั้งในบาห์เรน และกลุ่มประเทศภูมิภาคตะวันออกกลางมาเจรจาการค้า พบปะทางธุรกิจ และเยี่ยมชมโครงการ
ตั้งจุดนัดพบลูกค้าเป้าหมายในภูมิภาคตะวันออกกลางให้ผู้เข้าร่วมโครงการ
ประชาสัมพันธ์และโฆษณาในสื่อต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และบาห์เรน
จัดพิธีเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน 2549
จัดตั้งบริษัท ธุรกิจไทย-นานาชาติ จำกัด โดยจะเป็นการร่วมทุนของผู้เข้าร่วมโครงการ Thailand Business Center โดยจะมีการสรรหาผู้จัดการบริษัทฯ เพื่อดูแล และบริหารโครงการในภาพรวม และดำเนินการด้านการตลาดโดยจัดหา Trade agent (หากสมาชิกต้องการ) ซึ่งบริษัทธุรกิจไทย-นานาชาติ จะต้องอยู่ภายใต้การบริหารงานของคณะกรรมการ (ได้รับการแต่งตั้งจากสมาชิก TBC Bahrain) ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะทำหน้าที่ดูแลในภาพรวมต่อไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างโอกาสทางการค้า เพิ่มส่วนแบ่งการครองตลาด และสามารถเพิ่มทวีมูลค่าการค้าให้เพิ่มมากขึ้น
เสริมสร้างความเชื่อมั่นของทั้งสองฝ่ายในการดำเนินธุรกิจ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทยไปสู่บาห์เรน และผ่านไปยังกลุ่มประเทศสมาชิกสภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย (Gulf Corporation Council : GCC)
ผู้ประกอบการไทยจะสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ อันเนื่องมาจากการร่วมลงทุนและนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจากบาห์เรน
เชิญชวนให้บาห์เรนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าไทยมีภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมในการลงทุน และสามารถเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย
เสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายโอกาสทางการค้าสำหรับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปยังบาห์เรน
ผู้ประกอบการไทยสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสาร กฎระเบียบการค้า การลงทุนที่ถูกต้องชัดเจนเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการวางแผนประกอบการดำเนินธุรกิจ ให้สามารถรักษาส่วนแบ่งการครองตลาดเดิม และขยายการส่งออกให้มากยิ่งขึ้น
เสริมสร้างให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น ทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน อันจะส่งผลให้เกิดความเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจระหว่างกันในระยะยาวบนพื้นฐานของความเชื่อมั่น
สถิติมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับบาห์เรนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการ ส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรม
ผู้ประกอบการไทยเป็นที่รู้จักในตลาดของบาห์เรน และกลุ่มประเทศสมาชิกสภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย (Gulf Corporation Council : GCC) มากขึ้น
ปัญหาและอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศคู่ค้าลดลง
ประเภทสินค้าและบริการ
กลุ่มอาหาร (ภัตตาคารไทย ร้านสะดวกซื้ออาหารไทย ร้านผลไม้สดและแห้ง)
กลุ่มแฟชั่น (เสื้อผ้า เครื่องหนัง และอัญมณี)
กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก (โครงการ Waste-to-Energy เครื่องปรับอากาศ วัสดุก่อสร้าง ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกลฯ)
กลุ่มธุรกิจสปา (สินค้าสปา และสมุนไพรไทย)
กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (บริษัทท่องเที่ยว และการรักษาพยาบาลในไทย)
กลุ่มทรัพยากรมนุษย์ (การจัดส่งแรงงานไทย)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โทร. 0-2345-1017 โทรสาร 0-2345-1295-99
- ๐๘:๒๘ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และกระทรวงการต่างประเทศ
- ๒๓ พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานเปิดตัวแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส และงานสัมมนาแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน
- ๒๓ พ.ย. ไทยเบฟ สนับสนุน CaForum : Pioneering the Future of ASEAN Green Procurement