พาวเวอร์คลินิก แฟรนไชส์ศูนย์ซ่อม-ซื้อ-ขายมือถือมือสอง ตั้งเป้าโตปี 2550 1,000% เดินหน้าปูพรมขยาย 40 สาขาทั่วประเทศ ชูบริการ One Stop Service คาดรายได้กว่า 20 ล้าน

พฤหัส ๒๑ ธันวาคม ๒๐๐๖ ๑๒:๓๕
กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--พาวเวอร์คลีนิก
แฟรนไชส์ พาวเวอร์คลีนิก ศูนย์ซ่อม-ซื้อ-ขายโทรศัพท์มือถือมือสอง ธุรกิจในเครือ โรงเรียนแสงทองโทรทัศน์ ตั้งเป้าเติบโตปี 2550 1,000% เดินหน้าเปิดแฟรนไชส์ 40 สาขาทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ และบริการครบวงจรตามแนวคิด One Stop Service หวังเพิ่มรายได้แฟรนไชส์ซี คาดรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
คุณธนาชัย อึ้งสมรรถโกษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์บริการแสงทอง จำกัด ผู้บริหาร แฟรนไชส์ พาวเวอร์ คลีนิก (Power Clinic) ศูนย์บริการซ่อม-ซื้อ-ขายโทรศัพท์มือถือมือสอง ธุรกิจในเครือโรงเรียนแสงทองโทรทัศน์ กล่าวว่า “จากการดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ตลอดเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมีแฟรนไชส์ซีเซ็นสัญญาแล้ว 21 ราย และได้ทยอยเปิดร้านแล้ว 7 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้มีรายได้รวมในปี 2549 ประมาณ 2 ล้านบาท และด้วยสถานการณ์ในปี 2550 ที่คาดว่าแนวโน้มความต้องการของตลาดยังมีสูงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้ตั้งเป้าเติบโตตลอดปี 2550 ไว้ 1,000% โดยมีแผนเปิดแฟรนไชส์เดือนละ 3 สาขา รวม 36 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นร้านของแฟรนไชส์ซีเดือนละ 2 สาขา รวม 24 สาขา โดยเน้นต่างจังหวัด และ เป็นร้านของบริษัทฯ ที่เน้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มอีกเดือนละ 1 สาขา รวม 12 สาขา ซึ่งคาดว่าจากการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในปี 2550 พาวเวอร์คลีนิกจะมีแฟรนไชส์ไม่ต่ำกว่า 40 สาขา ครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และ คาดว่าจะมีรายได้จากการขายแฟรนไชส์และรายได้จากยอดขายหน้าร้านรวมไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
คุณธนาชัย กล่าวต่อว่า “บริษัทฯ มีนโยบายสร้างรายได้เพิ่มให้แฟรนไชส์ซีแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “One Stop Service” โดยได้เพิ่มสินค้าและบริการแบบครบวงจร ซึ่งจะทำการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือหนึ่งเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งแตกไลน์ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยได้คัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย พร้อมการรับประกัน 6-12 เดือน และจำหน่ายในราคาที่แข่งขันได้กว่า 20 รายการ อาทิ แบตเตอรี่ ที่ชาร์จไฟ สมอลทอล์ค สายดาต้าลิงค์ ฯลฯ โดยสร้างแบรนด์สินค้าและอุปกรณ์เสริมในนาม “พาวเวอร์คลินิก แอคเซสซอรี่ (Power Clinic Accessories)” รวมถึงจำหน่ายบัตรเติมเงิน , หน้ากาก , ซองมือถือ ฯลฯ นอกเหนือจากธุรกิจหลักเดิมซึ่งเน้นการให้บริการซ่อม-ซื้อ-ขายโทรศัพท์มือถือมือสองเพียงอย่างเดียวซึ่งถือเป็นจุดขายที่สำคัญ ทำให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้กับแฟรนไชส์ซีได้เป็นอย่างดี และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร
คุณธนาชัย ยังได้กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีนโยบายหลักในการดูแลแฟรนไชส์ซีที่เปิดร้านอย่างใกล้ชิด โดยการอบรมความรู้อย่างต่อเนื่อง และคอยเป็นพี่เลี้ยง ที่ปรึกษาแนะนำธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจเดินได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้สำหรับสินค้าและอุปกรณ์เสริมที่จะทำการวางตลาดใน แบรนด์ “พาวเวอร์คลีนิก” นั้น จะมีการรับประกันสินค้าทุกรายการตั้งแต่ 6-12 เดือน เพื่อให้ผู้บริโภคและแฟรนไชส์ซีในฐานะผู้แทนจำหน่าย เกิดความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า ที่สำคัญจะตั้งราคาจำหน่ายในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สำคัญให้กับแฟรนไชส์ซีในการเพิ่มลูกค้า และยอดขาย รวมถึงแฟรนไชส์ซีสามารถซื้อสินค้าในราคาขายส่งและได้รับเครดิตในการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งถือเป็นจุดที่ได้เปรียบกว่าการซื้อจากร้านทั่วไปซึ่งต้องจ่ายเป็นเงินสดและไม่รับเปลี่ยนหรือคืนสินค้า ทำให้แฟรนไชส์ซีของพาวเวอร์คลินิกจะมีสินค้าโชว์ที่หน้าร้านโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินสดล่วงหน้า และถ้าหากสินค้าตัวไหนขายไม่ดี ก็ยังสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นสินค้าตัวอื่นที่ขายดีกว่าได้ภายใน 45 วัน ซึ่งการเพิ่มไลน์ธุรกิจด้วยการจำหน่ายสินค้าและบริการแบบครบวงจร รวมถึงการสร้างแบรนด์สินค้าในนาม “พาวเวอร์คลีนิก” จะเพิ่มรายได้ให้แก่แฟรนไชส์ซีได้ไม่น้อยกว่า 40% และด้วยแผนการตลาด ปี 2550 ที่บริษัทฯ ได้วางไว้ เน้นขยายแฟรนไชส์ครบทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดการให้บริการแบบ “One Stop Service” ที่ครบวงจรอย่างแท้จริง คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งแฟรนไชส์ซี และผู้บริโภค
อนึ่ง แฟรนไชส์ Power Clinic ให้บริการด้านการซ่อม-ซื้อ-ขายมือถือมือหนึ่ง และมือสอง โดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน และ มีการรับประกันคุณภาพหลังการซ่อม 90 วัน สำหรับรูปแบบการลงทุนมี 3 รูปแบบ คือ
1) แบบคีออส ราคา 99,000 บาท ประกอบด้วย ร้านสำเร็จรูปขนาดพื้นที่ 2 ตารางเมตร, คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ 1 ชุด รวมถึงอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย
2) แบบคอร์นเนอร์ ราคา 129,000 บาท ประกอบด้วย ร้านสำเร็จรูปขนาดพื้นที่ 2 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ซ่อมโทรศัพท์มือถือชุดมาตรฐาน 1 ชุด, คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ 1 ชุด รวมถึงอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย
3) แบบช็อป ราคา 149,000 บาท ประกอบด้วย ร้านสำเร็จรูปขนาดพื้นที่ 4 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ซ่อมโทรศัพท์มือถือชุดมาตรฐาน 1 ชุด, คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ 1 ชุด รวมถึงอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย
นอกจากนี้ยังมีบริการจำหน่ายอุปกรณ์เสริมต่างๆ, การโหลดภาพ และการลงโปรแกรมต่างๆ สำหรับผู้ร่วมธุรกิจสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้โดยไม่ต้องมีความรู้ หรือประสบการณ์ด้านไอทีมาก่อน โดยทางบริษัทฯ จะจัดหลักสูตรฝึกอบรมผู้ประกอบการเกี่ยวกับวิชาชีพซ่อมมือถือ, สอนเทคนิคการรับซื้อ-ขาย มือถือมือสอง และ การบริหารจัดการร้าน, บริการให้คำแนะนำเรื่องแหล่งเงินทุน , ทำเลที่ตั้ง และช่างซ่อมประจำร้าน รวมถึงมีบริการฮอทไลน์ถึงช่างซ่อมเมื่อเกิดปัญหาอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๑๙ กสิกรไทย คาดยอดผู้ใช้ K PLUS ปี 68 เพิ่มล้านราย เป็น 23.9 ล้านราย
๑๐:๐๗ ร้าน เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ ชวนฉลองคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่กับ เมนูเฟสทีฟ หลากหลาย ตั้งแต่ วันนี้ - 31 มกราคม
๑๐:๓๗ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย คว้ารางวัล Best Places to Work
๑๐:๓๒ วว. จับมือพันธมิตร ร่วมผลักดันกิจกรรม CSR สร้างแรงบันดาลใจด้าน วทน. ให้แก่เยาวชน
๑๐:๐๐ กทม. ตรวจเข้มสถานที่ประกอบ-จำหน่ายอาหาร เน้นมาตรการด้านสุขลักษณะ
๑๐:๒๓ ชลิต อินดัสทรีฯ สานต่อภารกิจเพื่อสังคม สร้างโอกาสและความยั่งยืนทางการศึกษาและอาชีพสำหรับผู้พิการ
๑๐:๒๔ บิทคับ กรุ๊ป สุดปัง! คว้ากว่า 20 รางวัล ตลอดปี 2567 ตอกย้ำความเชื่อมั่นองค์กรของคนรุ่นใหม่
๐๙:๕๓ NITMX เผยยอดธุรกรรมพร้อมเพย์พุ่งต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นในระบบชำระเงินดิจิทัลของไทย
๐๙:๔๖ พฤติกรรมติดหรูคนไทย จะหยุดที่ตรงไหน! ซีเอ็มเอ็มยู พาส่องการตลาดที่คาดไม่ถึงของกลุ่ม ลักซูเมอร์ กับการไปต่อในปี
๑๐:๐๖ เปิดเมนูอาหารวันคริสต์มาส พร้อมอร่อยเพลินกับวันเดอร์พัฟฟ์