กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--รวม-แรง-รวย
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่ง มีการจัดการ ผลิตและจำหน่ายสินค้าแฟชั่นหลากหลายรูปแบบ ในกลุ่มของ “กระเป๋าเดินทาง” แบรนด์ของ “คาจิโอนี่” (Caggioni) ดีไซน์ออกมาเพื่อเอาใจคนเดินทางรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบสีสันที่สดใส มาคราวนี้ บริษัท บลูไล้ท์ อุตสาหกรรม จำกัด สร้างความแปลกใหม่ ให้กับวงการกระเป๋าเดินทาง โดยการออกสินค้า line ใหม่ พร้อมโลโก้ใหม่ของกระเป๋า Caggioni ซึ่งเป็น Fashion Luggage ทั้งนี้เราเน้นความเป็นแฟชั่นแบรนด์ที่เด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
มาครั้งนี้ คาจิโอนี่ สร้างความไม่เหมือนใครอีกครั้ง ด้วย “กระเป๋าเปลี่ยนหน้ากาก” ออกมาให้ฮือฮากันเป็นครั้งแรกของโลก และของไทย สนองนโยบายรัฐบาลในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยไปตีตลาดโลก ตามนโยบายโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น เป็นการเพิ่มและขยายขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจ สาขาอุตสาหกรรมกระเป๋าเดินทาง
“เราเป็นบริษัทคนไทย ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมด้านกระเป๋าเดินทาง ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงได้ออกแบบคอลเลคชั่นกระเป๋าถอดหน้ากากได้ รุ่น X-Mask ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ เป็นแจ้าแรกของโลก ที่สรรค์สร้างสินค้าอวดโฉมที่ไม่มีใครเหมือน” นางสาวกอบกุล อภิรมย์ฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท บลูไลท์ จำกัด ในฐานะคนทำธุรกิจรุ่นที่สาม กล่าว
คาจิโอนี่ รุ่น X-Mask ถือเป็นนวัตกรรมออกแบบไอเดีย และสรรค์สร้าง ซึ่งจดสิทธิบัตร และมุ่งมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายอายุ 20-30 ปี ที่มี Life Style ชื่นชอบการเดินทางและทันสมัยในตัวเอง
โดยคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ มี 5 ลวดลายคัดสรร มาให้เลือก ทั้ง ลายฟุตบอลโลก เพื่อต้อนรับ เทศกาลฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งจะเปิดฉากในเดือนมิถุนายนนี้, ลาย Vanda ดอกไม้ป่า, ลาย Chiky ดอกไม้ขนาดเล็กสีส้ม เอาใจคุณสุภาพสตรีที่นิยมลวดลายและสีหวาน ส่วนลาย Kevlar รถแข่ง และ ลาย Groovy กราฟฟิก มีให้เลือกสลับสับเปลี่ยนลวดลาย สร้างอารมณ์ที่แตกต่างในการเดินทางได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยเสนอราคาสินค้าจะอยู่ที่ประมาณ 4,500 บาท โดยช่องทางการจำหน่ายสินค้าจะผ่านห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทุกสาขา ซึ่งก่อนหน้านี้ คาจิโอนีได้สร้างชื่อด้วยกระเป๋าเดินทางหลากสี หลากรูปแบบ ขนาดต่างๆ อาทิ กระเป๋าเพ้นท์ลายเก๋ กระเป๋าเดินทางควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล
นางสาวกอบกุล กล่าวว่า เทคโนโลยีของการจัดการ ออกแบบและสร้างแบรนด์ คาจิโอนี่ ของไทยก้าวไปสู่ตลาดโลกครั้งนี้ ในการดำเนินการ โดยการออกแบบสินค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยยึดหลักให้สินค้ามี Variety มากที่สุด ทั้งสี ขนาด พื้นผิวสัมผัส ใส่ความเป็นแฟชั่นทันสมัย อินเทรนด์ ต้องตาถูกใจผู้บริโภค โดยใช้งานดีไซน์เป็นด่านหน้าในการพัฒนาสินค้า ซึ่งถือเป็นอาวุธสำคัญในด้านการตลาดยุคนี้
“เราพยายามสร้างสรรค์งานขึ้นมาใหม่ ด้วยกระบวนการ วิธีการออกแบบ สอนให้คิด ไม่ใช่การเลียนแบบอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นสินค้าไทยจะบุกและสู้ตลาดโลกไม่ได้ นอกเหนือจากการออกแบบ คุณภาพของวัสดุที่ใช้ ก็มีลักษณะพิเศษทนทานต่อแรงกระแทก”
ปัจจุบันสัดส่วนกระเป๋าเดินทางแฟชั่นคิดเป็น 20% และ 80% เป็นกลุ่มคลาสสิก ปีนี้คาดว่าสัดส่วนจะเปลี่ยนไปเป็นกระเป๋าเดินทางแฟชั่น 40 % และกระเป๋าเดินทางแบบคลาสสิก 60% นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดสินค้ารุ่นใหม่ซึ่งจะมีการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและคาดว่าจะเปิดตัวในสิ้นปีนี้ภายใต้งบการตลาดปีนี้ 5% ของยอดขาย
ในส่วนของตลาดต่างประเทศปัจจุบันบริษัทฯ มีส่งสินค้าไปหลายประเทศได้แก่ ญี่ปุ่น, ดูไบ, ฮ่องกง, ฝรั่งเศส, เวียดนาม และพม่า ปีนี้เล็งขยายตลาดเพิ่มในประเทศเอเชียทั้งหมด โดยยอดขายส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 15% และคาดว่าปีนี้จะมีสัดส่วนเท่าเดิมเนื่องจากตลาดมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะสินค้าราคาถูกจากประเทศจีน
สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทคาดว่าจะเติบโต 5% จากปีที่แล้วที่มียอดขาย 100 ล้านบาทและเติบโต 10% ทั้งนี้ยอดขายในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีนี้คาดว่ะโต 3-5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและเหตุการณ์ณืการเมืองที่ยังไม่นิ่งส่งผลให้คนประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น อีกที้งธุรกิจกระเป๋าเดินทางจะเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว กล่าวคือเศรษฐกิจดีคนจะเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่ตลาดกระเป๋าเดินทางปัจจุบันมีมูลค่ากว่าพันล้านบาทและมีอัตราการโตน้อยกว่า 5%
ในโอกาสนี้ บริษัท บลูไล้ท์ จำกัด จัดงานเปิดตัวกระเป๋าคาจิโอนี่รุ่น “X-Mask” ในวันอังคารที่ 21 มีนาคม 2549 เวลา 14.00 — 16.00 น. ณ ร้าน “ By Kalpapruek ชั้นล่าง ตึกซีอาร์ซี อาคารออล ซีซั่น เพลซ ถนนวิทยุ โดยได้รับเกียรติจากนักฟุตบอลดาวรุ่งของเมืองไทย “ ลีซอ “ ธีรเทพ วิโณทัย พร้อมหนุ่ม — สาวคนรุ่นใหม่ในสังคม ไกรเสริม โตทับเที่ยง ผู้บริหารหนุ่มจากผลิตภัณฑ์ กว้างไพศาล จำกัด มหาชน,ญาดาพัฒน์ เรืองสุรัตน์ Socail editor “To(2) Magazine” , ปริญ เพชรกรรพุม พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ปัทม์ บุญเดช สาวสังคมหน้าหวาน และกิตติศักดิ์ กิติกุลวงศ์ หนุ่มมาดเท่ เป็นผู้นำเสนอกระเป๋าเปลี่ยนหน้ากากทั้ง 5 ลวดลาย รวมทั้งพุดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางและการเลือกกระเป๋าอย่างเป็นกันเอง
ประวัติความเป็นมาและจุดเริ่มต้น
บริษัท บลูไลท์ อุตสาหกรรม จำกัด เปิดดำเนินการมากว่า 50 ปี สมัยคุณปู่คุณย่า เดินทางจากประเทศจีน มาตั้งรกรากในเมืองไทย โดยมีคุณประสิทธิ์ อภิรมย์ฤกษ์ ผู้เป็นพ่อสืบสานธุรกิจกระเป๋าเดินทางสืบมา จนกระทั่งถึงรุ่น 3 ซึ่งมีคุณกอบกุล อภิรมย์ฤกษ์ และพี่น้องอีก 3 คนช่วยกันสานต่อธุรกิจ ให้ขยายตัวและเติบโตยิ่งขึ้น
กอบกุล อภิรมย์ฤกษ์ จบการศึกษาที่โรงเรียนเลขานุการพระกุมารเยซูวิทยา (โฮลี่) ถ.สุขุมวิท กระทั่งจบปริญญาตรี สาขาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) และจบปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
หลังจบปริญญาตรี เข้าไปหาประสบการณ์ที่ CB Richard Ellis (Thailand) Co.,Ltd เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเรียลเอสเตรท จากนั้นจึงไปต่อปริญญาโท ระหว่างนั้นกลับมาช่วยงานธุรกิจครอบครัว ปัจจุบันเป็นรองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทั่วไป ดุแลการตลาด งานขาย
ก่อนหน้านี้ บริษัท บลูไลท์ เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตกระเป๋าส่งออกต่างประเทศ เมื่อถึงภาวะที่สินค้าถูกกดราคา แต่ยังต้องควบคุมคุณภาพให้เหมือนเดิม จึงต้องปรับตัวเพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสของธุรกิจ พี่น้องทั้ง 4 คน ได้มาสานต่อธุรกิจแบบเต็มตัว ซึ่งคิดที่สร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง และอีกทั้งยังเป็นบริษัทผลิตกระเป๋าเดินทางแบบแข็งแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง และต้องแข่งขันพร้อมกับสร้างโอกาสทางการตลาดในต่างประเทศด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท รวม-แรง-รวย จำกัด
เกศศิริ,อุษา
0-2941-4405-6
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net