กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--ปภ.
ปภ..เปิดศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน พร้อมดำเนินการในช่วง 10 วันอันตราย ไม่ให้เจ็บ-ตายเกินเป้า พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ใช้รถใช้ถนนอย่างมีวินัย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวถึง เทศกาลสงกรานต์ ปี 2549 ที่กำลังจะมาถึงนี้ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี จะมี พี่น้องประชาชนเดินทางกันมากกว่าในช่วงเวลาปกติ ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นสูงตามไปด้วย แม้ว่าที่ผ่านมาสถิติการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและเสียชีวิตจะลดลงมากแล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าเป็นอัตราที่สูงอยู่ ดังนั้น ในปีนื้ จึงกำหนดให้วันที่ 7-16 เมษายน 2549 เป็นช่วงวิกฤต “10 วัน ระวังอันตราย” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทุ่มเทปฏิบัติงานกันเต็มที่ เพื่อเอาชนะปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ที่ได้คร่าชีวิต ทำลายทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุ ชัดเจนเป็นรูปธรรม บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ คือใน ช่วง 10 วัน จะต้องมีผู้เสียชีวิตไม่เกิน 506 คน บาดเจ็บไม่เกิน 6,194 คน หรือลดลงให้ได้อย่างน้อย ร้อยละ 15 จากประมาณการที่ได้ตั้งไว้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้กำหนดเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2549 ขึ้น ทั้งในส่วนกลาง ที่กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย และจะมีการแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ เป็นประจำทุกวัน ในเวลา 11.00 น. และระดับพื้นที่ทุกจังหวัด รวม 75 ศูนย์ ระดับอำเภอ/กิ่งอำเภอ จำนวน 876 ศูนย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการ ประสานการปฏิบัติ ติดตามและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น และได้กำหนดให้ทุกศูนย์ดำเนินการจัดตั้งด่านเพื่อควบคุมวินัยจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชนตลอดเส้นทางทั้งไปและกลับ จำนวน 3,009 จุด เฉลี่ย อำเภอ/กิ่งอำเภอละ 3 จุด โดยให้สนธิกำลังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าประจำจุดตรวจ วันละ 3 ผลัด ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ดำเนินการตามแผนและมาตรการที่ได้กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง มาโดยตลอด โดยเฉพาะมาตรการ 3ม 2ข 1ร (เมาไม่ขับ มอเตอร์ไซด์ปลอดภัย สวมใส่หมวกนิรภัย มีใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย ใช้ความเร็วไม่เกินที่กฎหมายกำหนด) และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นในช่วงเทศกาล อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนทุกคน เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่จะทำให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ดังนั้นในการใช้รถใช้ถนน จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนให้มีความตระหนัก มีวินัย และถือว่าอุบัติเหตุและความปลอดภัยทางถนนเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน สร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ร่วมปฏิบัติงานในศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ที่ได้เสียสละเวลา ทุ่มเทแรงกายแรงใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน