กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
นาย ฮิโรอากิ คุโรกาว่า ประธานบริษัท ฟูจิตสึ ลิมิเต็ด ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว “ฟูจิตสึ แฟมิลี่คลับ” หนึ่งในกลยุทธ์กระชับความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการเปิดตัวในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันดีระหว่างฟูจิตสึ และ ลูกค้าในประเทศไทย โดยหลังจากการเปิดตัวในครั้งนี้ ฟูจิตสึจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนาเชิงวิชาการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง และประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจ ทั้งนี้ ในการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของนายฮิโรอากิ คุโรกาว่า ได้ร่วมกับทีมผู้บริหารในประเทศไทยทำพิธีสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อเฉลิมฉลองการย้ายสำนักงานแห่งใหม่ของฟูจิตสึด้วย
จากภาพ Fujitsu1.jpg
นาย ฮิโรอากิ คุโรกาว่า, ประธานบริษัท ฟูจิตสึ ลิมิเต็ด ประเทศญี่ปุ่น อยู่ในชุดฮัปปี (Happi) ขวาสุด นำทีมผู้บริหารระดับสูงฉลองการเปิดตัวในครั้งนี้
เกี่ยวกับฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน 2533 โดยให้การบริการและมีผลิตภัณฑ์ ด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพสูงแก่ตลาดประเทศไทย ครอบคลุมโซลูชั่นสำหรับการผลิต การศึกษา ค้าปลีก การเงินการธนาคาร และธุรกิจอื่นๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม http://www.fujitsu.com/th/en/about/subsidiaries/fsbt.html
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณจารุณี สินชัยโรจน์กุล
ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
โทรศัพท์ : 0-2655-6633, 01-488-8442
โทรสาร : 0-2655-3560
Email : [email protected]
คุณวัชรีพันธ์ ศักดิพงศ์
ฝ่ายการตลาด บริษัท ฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ : 0-2500-1780, 0-1875-4403 โทรสาร: 0-2302-1555
Email : [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ฟูจิตสึ พร้อมก้าวสู่ผู้นำทางด้านไอทีในปี 2020 ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด มีผลอย่างเป็นทางการ 1 สิงหาคม 2559
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: ฟูจิตสึ รวมพลังจัดกิจกรรมเพื่อสังคม “The 17th FSBT Voluntary Blood Donation” ร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย ครั้งที่ 17
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: ฟูจิตสึ โชว์นวัตกรรมสนับสนุนสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “The Power of ICT for Green Future”