อีสเม็ดประกาศทำการตลาดเชิงรุกเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ฉลองโอกาสครบรอบ 7 ปีของสถาบัน

พฤหัส ๒๐ เมษายน ๒๐๐๖ ๑๐:๕๖
กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
อีสเม็ดประกาศเตรียมพร้อมเปลี่ยนบทบาทเน้นดำเนินงานแบบเอกชน เจาะตลาดต่างจังหวัดเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs เชิงรุก ในโอกาสครบรอบ 7 ปี ของการก่อตั้งสถาบัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ในภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจที่มีการแข่งขันและมีความไม่แน่นอนสูง
นายธเนตร นรภูมิพิภัชน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2549 ตลอดจนผลงานที่ผ่านมา และบทบาทที่เปลี่ยนไปของสถาบันว่าบทบาทเดิมของสถาบันในช่วงก่อตั้งหลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 สถาบันถือเป็นหน่วยงานกลางที่ให้เงินทุนดำเนินโครงการและให้บริการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs โดยมีสถาบันเครือข่ายในภูมิภาค สถาบันได้ทำหน้าที่นี้สำเร็จลุล่วง มีการฝึกอบรม สร้างที่ปรึกษาแผนธุรกิจ SMEs ทุกภูมิภาคและมีหลักสูตรอบรมต่าง ๆ มีการก่อตั้งสถาบันเครือข่ายหลักตามสถาบันการศึกษาของรัฐทุกภูมิภาค ผู้ประกอบการ SMEs ตระหนักถึงความสำคัญของแผนธุรกิจและการดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดและยั่งยืน
“ต่อมาเมื่อภาครัฐได้ก่อตั้งหน่วยงานถาวรเป็นหน่วยงานกลางในการวางแผนและส่งเสริม SMEs คือ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ขึ้นมาแล้ว สถาบันจึงได้ปรับเปลี่ยนบทบาทมาเป็นหน่วยปฏิบัติ ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับงบประมาณและการอุดหนุนจากภาครัฐ และยังได้รับมอบภารกิจให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้พร้อมกับให้บริการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ต่อไป” นาย ธเนตร กล่าว
นายธเนตร กล่าวต่อไปว่า จากบทบาทและภารกิจที่ได้เปลี่ยนไปทำให้สถาบันต้องมีการปรับโครงสร้างการดำเนินงานภายในเพื่อให้เกิดความคล่องตัวเป็นแบบเอกชนด้วยการทำการตลาดเชิงรุก ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาสถาบันมีผลงานที่ดำเนินการอยู่และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs อาทิ การบริการวินิจฉัยเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของกิจการภาคผลิต (Business Competitiveness Diagnosis — BCDTM ) และการให้คำปรึกษาต่อเนื่อง เป็นโครงการยุทธศาสตร์ของสถาบันเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทย ปรับตัวได้ตรงจุดให้สามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ (BCDTM) เป็นเครื่องมือที่เรียกว่า “Intelligence Knowledge Based System and Strategic Benchmarking Tool for CEO” ผู้ประกอบการที่ผ่านการวินิจฉัย BCDTM แล้วจะสามารถรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของธุรกิจตนเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3 นี้ สถาบันจะทำระบบวินิจฉัยสำหรับภาคบริการแล้วเสร็จพร้อมให้บริการได้
นอกจากระบบวินิจฉัยธุรกิจเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันแล้ว สถาบันยังได้ให้บริการอบรมธุรกิจ โดยเน้นการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เช่น หลักสูตรการผลิตลูกชิ้น การลงทุนในธุรกิจอพาร์ทเมนต์ การเขียนแผนธุรกิจ การวางระบบบัญชีและภาษี และหลักสูตรคาร์แคร์ เป็นต้น ทั้งนี้ สถาบันจะมีงาน มหสัมมนาธุรกิจอาหารจานรวยขึ้นในระหว่างวันที่ 26 — 28 พฤษภาคม ศกนี้ ภายในงานจะประกอบด้วยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การเริ่มต้นธุรกิจอาหารในแง่มุมต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ การฝึกทำอาหารในเมนูที่กำลังได้รับความนิยม รวมทั้งบริการให้คำปรึกษาแนะนำในการจัดตั้งธุรกิจร้านอาหารสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย
“จากบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้สถาบันได้กำหนดยุทธศาสตร์บริการโครงการของภาครัฐเพื่อทำการตลาดเชิงรุก ด้วยการขยายการบริการในการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ไปยังหน่วยงานภาครัฐในต่างจังหวัด เช่น โครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์กลางเพื่อสิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ โครงการนำร่องเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียง และ OTOP จังหวัดอ่างทอง ปทุมธานี กำแพงเพชร และสมุทรสาคร โครงการระบบบริหารสินค้าคงคลังและ Logistics จังหวัดสิงห์บุรี โครงการออกแบบ Brand Identity จังหวัดกำแพงเพชรและกระบี่ โครงการพัฒนาหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก จังหวัดกำแพงเพชร กิจกรรมเพื่อส่งเสริมตลาดท่องเที่ยว จังหวัดสระบุรี โครงการพัฒนาประสิทธิภาพการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดอยุธยา และโครงการส่งเสริมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์เชิงรุกกลุ่ม 4 จังหวัดภาคกลางตอนบน ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี และอ่างทอง” นายธเนตร กล่าว
นายธเนตร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการให้บริการผู้ประกอบการ SMEs แล้ว สถาบันยังได้ให้บริการเพื่อสังคม เช่น การคัดเลือกธุรกิจขนาดเล็กเพื่อรับรางวัลธรรมาภิบาลดีเด่น และการช่วยเหลือ SMEs ด้อยโอกาส และการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมสปานานาชาติ ISPA 2006 Thailand ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 — 5 พฤษภาคม นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากนี้ สถาบันยังได้รับการมอบหมายจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในการให้บริการวินิจฉัยธุรกิจสปาทั่วประเทศ 300 ราย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย
“สำหรับในปี 2549 นี้ ถือเป็นช่วงที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและมีความไม่แน่นอนสูงนั้น ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ปัญหา SMEs ที่เราเคยเข้าใจกันผิดๆ ว่า เป็นปัญหาการเงินจึงต้องให้บริการการเงินที่สะดวกทั่วถึงหรือช่วยแก้ปัญหาตลาด นั้น สาเหตุที่แท้จริง คือ SMEs ไม่รู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้มากกว่า ดังนั้น สถาบันจึงขอเรียนให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกท่านทราบว่าสถาบันให้ความสำคัญในการพัฒนาขีดความของผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการเป็นที่พึ่งพาของผู้ประกอบการ SMEs ทั้งผู้ประกอบการเดิม เช่น สถาบันมีบริการระบบวินิจฉัย เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน (BCDTM) และผู้ประกอบการใหม่ ซึ่งสถาบัน มีการอบรมและให้คำปรึกษาแนะนำส่วนบริการแก่ภาครัฐโดยเฉพาะในต่างจังหวัด การให้บริการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ SMEs แบรนด์จังหวัด การสร้างโอกาสการขายสินค้า SMEs ของจังหวัด การสร้างโอกาสในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจน Logistics เป็นต้น ภายใต้ปรัชญาและความเชื่อว่า SMEs ไทยจะอยู่รอดและพัฒนาได้อย่างยั่งยืนได้ต้องมี Niche Innovation และ Networks ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs จะได้รับประโยชน์จากบริการภาครัฐเหล่านี้” นายธเนตร กล่าวในที่สุด
อนึ่ง สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ในรูปมูลนิธิ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2542 ปัจจุบัน เป็นหน่วยชำนาญการและแกนนำองค์กรเครือข่าย ปฏิบัติการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs โดยพัฒนาผู้ประกอบการรายเดิม และสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ให้สามารถบริหารธุรกิจด้วย ความสามารถในการแข่งขัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณกฤตยา สุวรรณวงศ์ 0-1372-6993
E-mail : Krtty_nat @ yahoo.com
คุณศศิธร ช้างใหญ่ 0-6015-2122
E-mail : [email protected]
โทรศัพท์ 0-2564-4000 ต่อ 6101 และ 6103

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version