กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
บสย. ประชุมคณะกรรมการ บสย. ครั้งที่ 2 / 2549 โดยมี ดร.นริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการ บสย. เป็นประธานในการประชุม ซึ่งที่ประชุมให้ความสำคัญกับผลการศึกษา บสย. ของ TDRI และ การกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานปี 2549 (KPI) ทั้งนี้ บสย. มียอดการอนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อเดือนมกราคม 49 จำนวน 143 ราย วงเงิน 393.826 ล้านบาท
นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม ขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ในวันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการ บสย. โดยมี ดร.นริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการ บสย. เป็นประธาน และมีนายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. ร่วมแถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ณ ห้องประชุม 301 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
สาระสำคัญของการประชุมประกอบด้วยผลการศึกษา บสย. ของ TDRI และการกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานปี 2549 (KPI) โดย บสย. ได้กำหนดเป้าหมายทางสังคมและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสังคมเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การสร้างสังคมผู้ประกอบการของกระทรวงการคลังและตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล และมอบหมายให้ TDRI ทำการศึกษาบริการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs ของ บสย. ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำผลมาพัฒนาการบริหารจัดการให้เป็นไปตามพันธกิจ รวมทั้งเป็นการประเมินความสำเร็จของระบบค้ำประกันสินเชื่อ
TDRI สรุปผลการศึกษาว่า การให้บริการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. มีผลกระทบเชิงบวกต่อผู้ประกอบการ SMEs เศรษฐกิจและสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาระดอกเบี้ยเงินกู้ยิมที่ต่ำลง SMEs ได้รับโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติม สามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้น และ การค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. มีส่วนช่วยทำให้เกิดการขับเคลื่อนในระบบเศรษฐกิจและช่วยสร้างปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ
ขณะเดียวกัน TDRI มองว่า สิ่งที่ บสย. ควรปรับปรุงเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามเจตนารมณ์ในการก่อตั้ง ประกอบด้วย การจัดทำรูปแบบการค้ำประกันให้มีความหลากหลาย สร้างความร่วมมือกับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการป้องกันปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ เพิ่มคุณภาพของสินเชื่อ และศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับอัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ผันแปรตามความเสี่ยง รวมทั้ง ควรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อให้สามารถดำเนินงานอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไปได้
สำหรับการกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานปี 2549 (KPI) นั้น บสย. ได้กำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานในภาพรวม แบ่งเป็น 40 : 20 : 20 : 20 โดยมีเกณฑ์ในการวัดประกอบด้วย 1. การช่วยเหลือ SMEs ให้ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินจำนวนมากขึ้น วัดจากกิจกรรมการเพิ่มยอดการค้ำประกันสินเชื่อ เพิ่มประสิทธิภาพระบบงานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 40% 2. การช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการให้สินเชื่อแก่ SMEs 20% 3. การเร่งกระจายสินเชื่อไปยัง SMEs ทั่วประเทศได้เร็วขึ้น 20% และ4.การพัฒนา SMEs บรรลุตามเป้าหมายรัฐบาล วัดจากการพัฒนาและแก้ไขหนี้ NPL อย่างเป็นระบบ 20%
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ บสย. ในเดือนมกราคม 2549 มียอดอนุมัติค้ำประกัน จำนวน 143 ราย วงเงิน 393.826 ล้านบาท สูงกว่าการอนุมัติค้ำประกันในช่วงเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 5 โดยเป็นการอนุมัติ ค้ำประกันสินเชื่อในกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไปสูงสุด 48 ราย วงเงิน 199.496 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร 45 ราย วงเงิน 96.395 ล้านบาท อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 17 ราย วงเงิน 2.760 ล้านบาท อุตสาหกรรมบริการ 16 ราย วงเงิน 21.675 ล้านบาท อุตสาหกรรมแฟชั่น 14 ราย วงเงิน 63.050 ล้านบาท และอุตสาหกรรมยานยนต์ 3 ราย วงเงิน 10.450 ล้านบาท ตามลำดับ
สำนักประชาสัมพันธ์ : โทร.0-2308-2741 ต่อ 361 —363--จบ--