กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและออกแบบทองรูปพรรณ 99.9% ขยายธุรกิจสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยเตรียมแผนเปิดจุดขายในประเทศจีนและอินเดีย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ชูกลยุทธ์การออกแบบและผลิตชิ้นงานที่สื่อให้เห็นถึงลวดลายความงดงามของทองคำ 24 เค ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาด
นางสาวรุ่งนภา เงางามรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศว่า บริษัท พรีม่าโกลด์ฯ จะเพิ่มศักยภาพในตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยมุ่งเน้นความร่วมมือทางธุรกิจกับคู่ค้าในด้านกิจกรรมส่งเสริมการขายและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งบริษัทฯ จะใช้ความเป็นผู้นำในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์มาเป็นกลยุทธ์หลัก โดยบริษัทฯ จะผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้รองรับกับความนิยมของลูกค้าในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนเปิดจุดขายในบางประเทศให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย
ประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายของบริษัทฯ คือ กลุ่มลูกค้าในประเทศจีนและอินเดีย เนื่องจากการสำรวจตลาดพบว่า ผลิตภัณฑ์พรีม่าโกลด์ได้รับความสนใจอย่างสูงในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบเครื่อง ประดับทองที่มีดีไซน์หรือลวดลายประณีต นอกจากนี้นโยบายเปิดการค้าเสรี (FTA) ยังเป็นปัจจัยเกื้อหนุนในการขยายธุรกิจ โดยมีการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าในจีนเหลือ 12% โดยจะเริ่มในปี พ.ศ. 2550-2551 และในประเทศอินเดียจะปรับลดภาษีนำเข้าเครื่องประดับทองเป็น 0% ในเดือนกันยายน 2549 นี้ ซึ่งบริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดจุดขายในประเทศจีนและอินเดียภายในปีนี้
นางสาวรุ่งนภากล่าวเพิ่มเติมว่า ลักษณะการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศแบ่งออกเป็น 5 รูปแบบด้วยกัน 1) บริษัท พรีม่าโกลด์ฯ ลงทุนเองทั้งหมด 2) ลงทุนร่วมกับคู่ค้าเปิดร้านค้าปลีก 3) แต่งตั้งคู่ค้าเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ โดยคู่ค้าลงทุนเปิดร้านค้าปลีก 4) จัดจำหน่ายในระบบแฟรนไชส์ในต่างประเทศ 5) ขายในระบบขายตรงผ่านสื่อต่างๆ ได้แก่ โทรทัศน์ สื่ออินเตอร์เน็ต เป็นต้น สำหรับหลักในการคัดเลือกบริษัทหรือคู่ค้าที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายของพรีม่าโกลด์ในต่างประเทศ บริษัทฯ คำนึงถึงพื้นฐานธุรกิจเสถียรภาพทางการเงินของคู่ค้าและการนโยบายการดำเนินธุรกิจในอนาคต รวมถึงความเข้าใจในการสร้างตราสินค้าเป็นสำคัญ
ปัจจุบันบริษัท พรีม่าโกลด์ฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในเอเชีย อเมริกาและตะวันออกกลาง แบ่งเป็นตลาดในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น เนปาล ปากีสถาน จีน ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขายในระบบขายตรงผ่านทางสื่อโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต ส่วนตลาดในตะวันออกกลาง ได้แก่ ดูไบและอียิปต์ สำหรับประเทศที่มีศักยภาพการจำหน่ายสูง ได้แก่ ดูไบ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและมาเลเซีย ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา (2548) บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายในต่างประเทศประมาณ 200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 30% ของยอดขายรวม สำหรับการคาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ (2549) บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนโยบายในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศที่จะเป็นช่วยกระตุ้นยอดขายแล้ว บริษัทฯ ยังได้จัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศจดจำแบรนด์พรีม่าโกลด์ได้เป็นอย่างดี โดยได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ บางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ ในวันที่ 1-5 มีนาคมศกนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยบริษัทฯ ได้เตรียมเครื่องประดับทองคอลเล็กชั่นพิเศษไปจัดแสดงในงาน อาทิ สยามพรรณนาราย เดอะไพร์ออฟโกลด์ ซึ่งทุกชิ้นงานที่พรีม่าโกลด์ผลิตและออกแบบจะเป็นที่นิยมและชื่นชอบของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เห็นได้จากยอดขายจากการจัดงานบางกอกเจมส์ในครั้งที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งในการร่วมงานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ครั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายจากการร่วมงานเพิ่มขึ้น 20%
รูปแบบหรือดีไซน์ที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศคือ ลวดลายที่เน้นธรรมชาติดูเหมือนจริงและลวดลายสมัยนิยม (Classic Modern) โดยลักษณะพิเศษของทองพรีม่าโกลด์ที่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศจะมีความโดดเด่นที่การใช้ทองที่มีเปอร์เซ็นต์สูงสุดมาผลิตชิ้นงานคุณภาพสูง การดีไซน์ที่มีให้ลูกค้าเลือกสรรกว่า 2,000 แบบและสามารถออกแบบเฉพาะความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีเครื่องประดับทองคอลเล็กชั่นใหม่ๆ ออกมารองรับความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ไตรมาส นางสาวรุ่งนภากล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เหมือนฝัน นิลคูหา / กมลวัฒน์ ตุลยสุวรรณ / จิตรดารา นพเกตุ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 35-37
หรือ บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
โทร. 0-2745-6111
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--
- ธ.ค. ๒๒๘๔ อนันดาฯ จับมือ แอร์เอเชีย ร่วมผ่านวิกฤตโควิด-19 ผ่านหลักสูตร “2nd Job 2nd Chance” เปิดโอกาสเรียนรู้อสังหาฯ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อไป
- ธ.ค. ๑๒๖๙ อนันดาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC”
- ธ.ค. ๒๕๖๗ อนันดาฯ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC” พร้อมส่งมอบ 5 โครงการพร้อมอยู่ ครบทุกเซ็กเมนต์