สปส. แจ้ง ผู้ประกันตนรับสิทธิสงเคราะห์บุตรไม่ต้องยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรแล้ว

พุธ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๐๖ ๑๐:๐๔
กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม แจ้งผู้ประกันตนรับสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตร ตุลาฯ นี้เป็นต้นไป ไม่ต้องยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรแล้ว สปส.พร้อมใช้ระบบสารสนเทศช่วยตรวจสอบ ผู้มีสิทธิแทน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและลดภาระผู้ประกันตน
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากการที่สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดให้ระหว่างวันที่ 1 — 31 ตุลาคม ของทุกปี ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรทุกคนจะต้องยื่นแสดงหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งอาจเป็นภาระยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสารของผู้ประกันตน
ดังนั้น เพื่อช่วยลดภาระผู้ประกันตน ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมเอกสาร ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมมือกับกรมการปกครอง นำระบบสารสนเทศมาใช้ในการตรวจสอบข้อมูล การมีชีวิตอยู่ของบุตร ของผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทน ส่งผลให้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ผู้ประกันตนไม่ต้องแสดงหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรต่อสำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้ในกรณีที่สำนักงานประกันสังคม ไม่สามารถตรวจสอบหรือมีข้อสงสัยการมีชีวิตอยู่ของบุตรทางสำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีดังกล่าว ให้นำหลักฐาน เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ หรือหนังสือรับรองของเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง หรือข้าราชการตั้งแต่ระดับ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ส่วนกรณีบุตรที่มีสัญชาติอื่นที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ให้แสดงหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรเช่นเดิม
สำหรับสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร นั้น ผู้ประกันตนที่มีสิทธิต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือนก่อนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ส่วนบุตรที่จะได้รับการสงเคราะห์นั้นต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ โดยได้รับประโยชน์ทดแทนจากสำนักงานประกันสังคมเดือนละ 350 บาท ต่อบุตร 1 คน จนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ และขอรับประโยชน์ได้คราวละไม่เกิน 2 คน ผู้ประกันตนท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1506
ศูนย์สารนิเทศ โทรศัพท์/โทรสาร 0 2956 2534 www.sso.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ