กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
มาเข้าฉากตื่นเต้นระทึกขวัญกันกลางดึกสงัดที่บ้านร้างโบราณ ทำเอา “อั๋น” วิทยา วสุไกรไพศาล พระเอกหน้าคมที่มาเล่นเป็นคุณพ่อมือใหม่ (ป้องภพ) คู่กับ “พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์” (แพร) ในภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง โคลิค เด็กเห็นผี ถึงกับขนลุกซู่ เพราะหวุดหวิดทำให้เกือบจมน้ำตายกลางดึกซะแล้ว โดยเรื่องโคลิค เด็กเห็นผี เป็นเรื่องราวที่อ้างอิงจากโรคที่มีอยู่จริงที่เกิดขึ้นกับเด็กวัยแรกเกิด ด้วยอาการร้องไห้อย่างรุนแรงในเวลาเดียวกันของทุกวันติดต่อกันนานหลายเดือนโดยที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่โรคที่เกิดขึ้นกับน้องปั้นลูกชายของป้องภพและแพรกลับเป็นโคลิคชนิดรุนแรงกว่าเด็กทั่วไปอีกทั้งยังถูกสิ่งเร้นลับตามรังควานลูกของตนอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกครั้งที่น้องปั้นร้องไห้มักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกเหตุการณ์นึงที่ป้องภพประสบกับความร้ายแรงจากอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น เพราะฉากที่ถ่ายทำกันในวันนี้เป็นฉากต่อเนื่องจากเหตุการณ์โกลาหลที่เหล่าภูติผีวิญญาณเข้ามาทำร้าย แล้วเกิดระเบิดขึ้นทำให้ป้องภพ (อั๋น) กระเด็นตกลงไปในสระว่ายน้ำทั้งที่ยังไม่ได้สติ แต่พวกวิญญาณร้ายก็ยังไม่หยุด ซ้ำยังฉุดขาให้ป้องภพจมน้ำตายอีกด้วย
ซึ่งฉากที่ถ่ายทำกันในวันนี้ผู้กำกับ “พัชนนท์ ธรรมจิรา” ใช้บ้านเก่าโบราณหลังใหญ่แถวสนามบินน้ำ นนทบุรี ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้รกร้างมานาน บรรยากาศวังเวงน่ากลัว สระว่ายน้ำก็ไม่ได้ใช้งาน มาเป็นสถานที่ถ่ายทำเพราะเป็นบ้านหลักในเรื่อง กว่าจะได้ถ่ายทำฉากที่พระเอกตกลงไปในน้ำก็เลยเที่ยงคืนกว่าเข้าไปแล้ว เนื่องจากช่วงหัวค่ำต้องถ่ายทำฉากอื่นๆ ก่อน พอถึงเวลาถ่ายทำพระเอกต้องลงไปอยู่ในสระว่ายน้ำที่ทั้งหนาว มืด และลึกมาก มีเชือกเส้นนึงขึงไว้เหนือหัวสำหรับพยุงตัวขึ้นมาเหนือน้ำ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หลังจากนั้นอั๋นต้องพยายามที่จะทำให้ตัวเองจมลงไปใต้สระน้ำเพื่อให้ดูเหมือนคนจมน้ำ แล้วก็มีมือผีโผล่เข้ามาฉุดขาพระเอกให้จมน้ำอีก คืนนั้นอั๋นผลุบโผล่อยู่พักใหญ่ก็ยังไม่ได้ภาพตามต้องการสักที เพราะการจับภาพใต้น้ำเป็นการถ่ายทำที่ค่อนข้างจะควบคุมจังหวะยาก จนทีมงานเริ่มวิตกกังวลหาผ้าอุ่น น้ำอุ่นเตรียมพร้อมกลัวว่าอั่นจะหมดแรงจมน้ำซะก่อน แต่ด้วยสปิริตนักแสดงพระเอกหนุ่มก็ยังอดทนแช่อยู่ในน้ำจนได้ภาพเป็นที่น่าพอใจ
“ฉากนี้เป็นฉากที่ผมต้องลงไปอยู่ในสระว่ายน้ำ เป็นฉากนึงที่เรากลับไปที่บ้านแล้วเผอิญว่าเกิดระเบิดขึ้นจากห้องครัว แรงระเบิดทำให้เรากระเด็นตกลงไปในสระว่ายน้ำ ที่ฉากนี้มันยากเพราะว่าตอนที่ถ่ายทำกันมันค่อนข้างดึกมากแล้ว แถมยังเป็นช่วงหน้าหนาวน้ำในสระก็เย็นมาก และมีฝนตกปรอยๆ ตลอดเวลา ใต้น้ำก็มืดมาก บริเวณที่เราถ่ายก็เป็นจุดที่ลึกที่สุดแสงจากข้างบนมันส่องลงมาไม่ค่อยถึง แล้วเผอิญว่าก่อนที่จะลงไปในสระก็มีหมาหอนตลอดเลยครับ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกัน คิดไปต่างๆ นานาว่าถ้าเราลงไปแล้วเราจะได้ขึ้นหรือเปล่า เพราะบรรยากาศมันวังเวงมาก
แล้วตามเนื้อเรื่องหลังจากที่เรากระเด็นลงไปในสระน้ำและสลบอยู่ในสระแป๊ปนึง พอรู้สึกตัวก็ต้องกระโจนตัวขึ้นมาเหนือน้ำ เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมลงไปผมจะพยายามปล่อยลมหายใจให้มากที่สุด แล้วอาศัยลมที่เรามีอยู่น้อยนิดเนี่ยแหละครับดันให้เราขึ้นมาที่ผิวน้ำ ก่อนถ่ายพวกพี่ทีมงานก็จะลงไปวัดระดับน้ำหาจุดที่เหมาะสมและก็หาตะกั่วมาถ่วงตัวไว้สัก 3-4 ก้อนเพื่อให้เราจมลงไปก่อนแล้วค่อยโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เพราะถ้าไม่ถ่วงเอาไว้ตัวเราก็จะไม่จม มันก็จะไม่ได้ภาพตามที่ผู้กำกับต้องการ แล้วนอกจากที่ผมจะต้องทำท่าเหมือนคนตกน้ำแล้วในเรื่องก็จะมีมือผีเข้ามาฉุดขาผมให้จมน้ำอีกโดยทีมงานเค้าก็เอาสีมาทาที่มือทำเอฟเฟ็คให้ดูเหมือนเป็นมือผีลากผมลงใต้น้ำ ลำพังผมทำตัวเองให้จมน้ำก็ยากพออยู่แล้ว พอมีคนเอามือมาจับขาฉุดลงไปมันก็ลำบากเหมือนกันครับ จังหวะไม่ดีอาจเกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกันครับ เพราะผมก็อยู่ในน้ำที่หนาวมากมาทั้งคืนแล้ว จะเป็นตะคริวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ซึ่งคืนนั้นผมและทีมงานก็ลงไปอยู่ในน้ำตั้งแต่หลังทานข้าวเสร็จจนถึงเวลาประมาณเกือบตี 3 เลยครับ นานมาก ตัวเปื่อย สั่นไปทั้งตัว พวกพี่ๆ ทีมงานก็เป็นห่วงพยายามหาผ้าอุ่นกับน้ำอุ่นให้ทานตลอดเวลา ดูแลเราดีมากเลยโชคดีปลอดภัยกลับมาครับ”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net