น้ำมันพืชทิพส่ง "ทิพไวส์" น้ำมันพืชสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เจาะตลาดคนรักสุขภาพทั่วประเทศ

ศุกร์ ๓๐ มิถุนายน ๒๐๐๖ ๐๙:๒๗
กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--เจ ดับบลิว ที พับบลิค รีเลชั่นส์
น้ำมันพืชทิพเปิดตัวน้ำมันพืชไลน์ใหม่ 5 ชนิด ภายใต้ชื่อ "ทิพไวส์" สร้างเทรนด์ใหม่ให้คนไทยเลือกใช้น้ำมันพืชอย่างถูกต้อง สลัด ผัก ทอด ต้องเลือกใช้น้ำมันพืชให้ถูกชนิดและประเภท พร้อมจัดแคมเปญ "ทิพไวส์ กินอย่างคนที่รู้ อยู่อย่างคนฉลาดใช้ชีวิต" เดินสายโรดโชว์ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ หวังปลุกกระแสให้ผู้บริโภคตื่นตัวในการเลือกใช้น้ำมันโดยคำนึงถึงสุขภาพมากขึ้น มุ่งเจาะตลาดลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ตั้งเป้ายอดขายทิพไวส์ 40% ของผลิตภัณฑ์ทิพทั้งหมดหรือประมาณ 280 ล้านบาท
หม่อมราชวงศ์สุภาณี ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชทิพ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายน้ำมันพืชทิพ กล่าวว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ น้ำมันพืชทิพได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ ทิพไวส์ ซึ่งเป็นน้ำมันที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพได้เลือกใช้ตามประเภทของการปรุงอาหาร อาทิ สลัด ผัด ทอด ฯลฯ จำนวน 5 ประเภทประกอบด้วย น้ำมันเมล็ดฝ้าย เหมาะสำหรับทอด น้ำมันข้าวโพด และ น้ำมันดอกทานตะวัน สำหรับการทำอาหารประเภทผัด น้ำมันสลัด เป็นน้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธีที่เหมาะสำหรับการทำน้ำสลัดและการผัด และ น้ำมันถั่วเหลืองผสมน้ำมันปาล์ม ที่มีอัตราส่วนกรดไขมันที่สมดุลเหมาะทั้งการทำอาหารประเภททอดหรือผัด โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการทำอาหารแต่ละประเภท ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงสุด เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
"การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชทิพไวส์ บริษัทได้ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการวิจัยถึงคุณสมบัติของน้ำมันพืชแต่ละชนิดว่ามีความเหมาะสมในการบริโภคและประกอบอาหารอย่างไร จนได้น้ำมันพืชคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ทิพไวส์ออกมา ซึ่งน้ำมันแต่ละประเภทนอกจากเหมาะสำหรับการปรุงอาหารแล้วยังใหคุณค่าทางด้านโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย จึงถือได้ว่าน้ำมันพืชทิพ เป็นบริษัทน้ำมันพืชรายแรกของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้บริโภค โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและจะคงนโยบายนี้ต่อไป" ม.ร.ว.สุภาณี กล่าว
ม.ร.ว.สุภาณี กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันผู้บริโภคจะยังเชื่อว่า น้ำมันพืชขวดเดียวสามารถปรุงอาหารได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะทอด ผัด หรือสลัด แต่ในความจริงแล้วน้ำมันพืชแต่ละชนิดต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกัน เช่น น้ำมันพืชประเภท เช่น น้ำมันเมล็ดฝ้าย และน้ำมันถั่วเหลืองผสมน้ำมันปาล์ม จึงเหมาะสำหรับการทอด เพราะจะสามารถทนความร้อนได้สูงเป็นเวลานาน และไม่ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และทำให้เซลล์เสื่อมสภาพหรือแก่ก่อนวัย
น้ำมันบางประเภทจำเหมาะสำหรับผัด หรือทำสลัดเท่านั้น เนื่องจากความสามารถทนความร้อนสูงได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ถ้าถูกความร้อนสูงเป็นเวลานานอาจแตกตัวเป็นสารอนุมูลอิสระ ทำให้อาหารหนืด และเหม็นหืนง่าย และอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งอีกด้วย จึงจำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้บริโภค ให้รับรู้ถึงคุณประโยชน์และโทษ ในการเลือกใช้น้ำมันอย่างละเอียด ผ่านกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น สื่อทางนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ รวมทั้งการให้ความรู้กับผู้บริโภคผ่านการจัดกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย ซึ่งน้ำมันพืชทิพมีแผนที่จะนำน้ำมันพืชทิพไวส์เดินสายโรดโชว์แนะนำผลิตภัณฑ์และเมนูอาหารในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่รวม 3 แห่ง โดยในกรุงเทพฯ จะจัดขึ้น 3 ครั้ง ครั้งแรก วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2549 ณ ท็อปส์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ครั้งที่ 2 วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2549 ณ ท็อปส์ เซ็นทรับชิดลม และครั้งที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2549 ณ วิลลา มาร็เก็ต เจ อเวนิว จากนั้นจะเดินสายจัดกิจกรรมการตลาดในหัวเมืองใหญ่ คือ เชียงใหม่ และ ชลบุรี ในเดือนต่อไป
จุดเด่นของน้ำมันพืชทิพไวส์ นอกเหนือจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในด้านโภชนาการที่มีส่วนผสมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคแล้ว รูปแบบของผลิตภัณฑ์ยังมีความโดดเด่นและทันสมัย เหมาะสำหรับการใช้งาน ซึ่งรูปแบบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับ รางวัลบรอนซ์ อวอร์ด (Bronze Award) สาขาการสื่อสารการตลาดด้านการออกแบบกราฟฟิคประเภทบรรจุภัณฑ์ จากการประกวดรางวัล Adman Awards 2006
การทำตลาดน้ำมันพืชทิพไวส์ ซึ่งเป็นสินค้าที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม และจากการคาดการณ์ภาวะตลาดกลุ่มนี้พบว่าเป็นตลาดที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี น้ำมันพืชทิพมั่นใจว่าน้ำมันพืชทิพไวส์ จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างดี ซึ่งน้ำมันพืชทิพตั้งเป้ายอดขายน้ำมันพืชทิพไวส์ประมาณ 40% ของยอดขายทั้งหมดหรือประมาณ 280 ล้านบาท และมั่นใจว่าน้ำมันพืชทิพไวส์ จะช่วยผลักดันยอดขายรวมของน้ำมันพืชทิพให้เพิ่มสูงขึ้น โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายน้ำมันทุกประเภทไว้ประมาณ 700 ล้านบาท
ม.ร.ว.สุภาณี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงแนะนำน้ำมันพืชทิพไวส์ ภายใต้คอนเซปต์ "ทิพไวส์ กินอย่างคนที่รู้ อยู่อย่างคนฉลาดใช้ชีวิต" น้ำมันพืชทิพได้จัดกิจกรรมพิเศษสำหรับผู้บริโภคที่ซื้อน้ำมันพืชทิพไวส์ ทุกๆ หนึ่งขวดลิตร จะได้รับผงจัดการน้ำมันเหลืองทิ้งหนึ่งซอง ซึ่งผงจัดการน้ำมันเหลือทิ้งจะให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในการทำความสะอาดภาชนะโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำไปทิ้งได้เหมือนขยะทั่วไป โดยผู้บริโภคทั่วไปสามารถเลือกซื้อน้ำมันพืชทิพไวส์ได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เจ ดับบลิว ที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณศริญญา แสนมีมา และ คุณวัลภา สุขใย
โทร. 0-2204-8218, 0-2204-8219 หรือ 0-1805-1498, 0-1427-4827
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๒๗ สถาพร เอสเตท ฟอร์มเยี่ยม ยอดขายทะลุเป้ากว่า 165 ล้านบาท จากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46
๑๖:๐๒ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดทัพโซลูชั่นสำหรับสมาร์ทซิตี้ในงาน IEEE-ISC2 2024 พร้อมจัดเวทีเสวนาระดับผู้นำทางความคิดด้านสมาร์ทซิตี้
๑๖:๑๘ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึก IMAX Corporation เปิดโรงหนัง IMAX with Laser ครั้งแรกในต่างจังหวัด ส่งมอบประสบการณ์การดูหนังที่ดีที่สุด ที่ เซ็นทรัล เฟสติวัล
๑๖:๒๘ Bitkub Group สร้างปรากฏการณ์เขียวทั่วเมืองไทย!ขึ้น Billboard ต้อนรับ Developer ทั่วโลกบินร่วมงาน Devcon 2024
๑๖:๔๗ ยิบอินซอยจับมือมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามบันทึกความเข้าใจ ผลิตบุคลากรคุณภาพในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
๑๖:๓๕ RML ปลื้ม 'ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์' และ 'เทตต์ สาทร ทเวลฟ์' ปล่อยเช่า Yield สูง
๑๖:๔๓ TPCH สุดแกร่ง! โชว์กำไร 9 เดือนปี 67 แตะ 254.15 ลบ. รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล-พลังงานขยะ กำลังผลิต 90.2 MW บอร์ดใจดีแจกปันผลระหว่างกาล 0.128
๑๖:๒๖ กลุ่มเซ็นทรัล ชวนทุกท่านร่วมส่งมอบความสุขอันอบอุ่นให้น้องๆ ชายแดนใต้ ผ่านของขวัญแทนความห่วงใย ในโครงการ มิลเลี่ยนกิฟต์ มิลเลี่ยนสมายล์ ปี
๑๖:๑๖ YLG ย้ำทองยังปรับตัวขึ้นได้อีก 2 ปี เป้าหมายถัดไปลุ้นถึง 3,000 ดอลลาร์ ทองแท่งในประเทศได้เห็น 5 หมื่นบาท
๑๖:๒๖ แม็คโคร ชี้เมกะเทรนด์ธุรกิจอาหารที่น่าจับตามอง ปี 2568 หนุนผู้ประกอบการโฮเรก้าเติมศักยภาพ-แข่งขันในตลาดได้