กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--สำนักงานประกันสังคม
สำนักงานประกันสังคมยันใช้งบประมาณ 2.8 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาและบูรณาการระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ 5 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เป้าหมายหลักเพื่อประโยชน์แก่นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนและประชาชนทั้งประเทศ
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าสำนักงานประกันสังคมได้มีการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) และผู้อำนวยการสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.) เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศ 5 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ว่าการดำเนินโครงการนี้เป็นงานใหญ่ใช้งบประมาณในการพัฒนาและจัดหา 2,800 ล้านบาท โดยทิศทางในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศทั้งกระทรวงแรงงานนี้ เป็นการลงทุนบนพื้นฐานที่หน่วยงานแต่ละกรมมีอยู่แล้วเพื่อนำมาปรับปรุงและจัดหาเพิ่มเติมทางด้านระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ พัฒนาโปรแกรมระบบ ปรับปรุงและบริหารระบบเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศทั้งหมด 29 ระบบ โดยเป็นการพัฒนาระบบใหม่ 17 ระบบ ปรับปรุง 11 ระบบ และทำการเชื่อมต่อ 1 ระบบ การดำเนินการในลักษณะต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่แล้วนั้นจะเป็นการง่ายต่อการบูรณาการให้เป็นระบบ E-Labour Management ซึ่งทุกกรมภายในกระทรวงแรงงานสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
การมีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีการบูรณาการระบบงานและข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดบริการผู้ประกันตนในลักษณะ One Stop Service และ E-Service ของแต่ละส่วนราชการ โดยให้บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร ณ จุดบริการจุดเดียว หรือบริการผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แต่ละหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานไม่จำเป็นต้องเพิ่มสาขา ลูกจ้างผู้ประกันตนสามารถใช้บริการได้ทุกประเภทตามภารกิจของหน่วยงาน ทุกเวลา ทุกที่ทั่วไทย สะดวกรวดเร็วประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาใช้บริการ ผู้หางานทำมีช่องทางการหางานง่ายขึ้น ผู้ประกอบการไม่ต้องส่งข้อมูลหรือรายงานให้กับหน่วยงานกระทรวงแรงงานซ้ำซ้อน ทำให้การบังคับใช้กฎหมายด้านแรงงานมีประสิทธิภาพ ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานทั่วถึง ส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานเข้าสู่ระบบประกันสังคมมากขึ้น มีการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนต่าง ๆ ครบถ้วนทำให้แต่ละกองทุนมีเสถียรภาพมั่นคง นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังก่อให้เกิดระบบคลังข้อมูลด้านแรงงานที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุด สนับสนุนการวางแผนนโยบายและยุทธศาสตร์ทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การคลังของประเทศ และอาจเป็นกระทรวงแรกของประเทศไทยที่สามารถบูรณาการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานได้
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506/ www.sso.go.th