กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--สปส.
เนื่องจากสำนักงานประกันสังคม ได้รับข้อมูลจากลูกจ้างในสถานประกอบการบางแห่งว่า ขณะนี้มีนายจ้างบางราย ส่งเงินสมทบไม่ตรงกับฐานค่าจ้างจริง ส่งผลให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิไม่ครบตามจำนวนค่าจ้างที่ควรจะได้รับ
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในปัจจุบันมีสถานประกอบการบางแห่งยังหักเงินสมทบไม่ตรงกับฐานค่าจ้างจริง ส่งผลให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิไม่ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมจึงขอความร่วมมือให้นายจ้างแต่ละสถานประกอบการนำส่งเงินสมทบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากพระราชบัญญัติประกันสังคมได้กำหนดให้ รัฐบาล นายจ้าง ลูกจ้าง จะต้องนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม สำหรับเงินสมทบส่วนของนายจ้าง ลูกจ้าง จะคำนวณจากค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับจริง ซึ่งคำนวณจากฐานค่าจ้างเป็นรายเดือนต่ำสุดเดือนละ 1,650 บาท สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทหากฐานค่าจ้างไม่ถึง 1,650 บาท ให้ส่งเงินสมทบ 83 บาท หากฐานค่าจ้างเกิน 15,000 บาท ให้ส่งเงินสมทบ ไม่เกิน 750 บาท โดยนายจ้างจะหักเงินสมทบในส่วนของลูกจ้างทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้างและนำส่งเงินสมทบส่วนของนายจ้างในจำนวนเท่ากับที่ลูกจ้างทั้งหมดถูกหักรวมกัน ส่วนรัฐบาลจะออกเงินสมทบเข้ากองทุนอีกส่วนหนึ่ง
ในกรณีคำนวณเงินสมทบจากฐานค่าจ้างจริงกับอัตราเงินสมทบปัจจุบัน หากเศษของเงินสมทบที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าสิบสตางค์ขึ้นไปให้ปัดเป็นหนึ่งบาท ถ้าน้อยกว่าห้าสิบสตางค์ให้ปัดทิ้ง โดยนายจ้างจะเป็น ผู้ทำหน้าที่นำส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
เลขาธิการฯ กล่าวย้ำว่า สำหรับนายจ้างที่หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติถือว่า มีความผิดฐานขัดคำสั่ง ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506/www.sso.go.th