พิมล นำทัพ ครัวไทย ยึดหัวหาด สแกนดินิเวีย เผยอาหารไทยครองอันดับ 1 ในกลุ่มชาวเดนนิช

จันทร์ ๐๔ กันยายน ๒๐๐๖ ๑๗:๑๗
กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--คิธแอนด์คินฯ
พิมล นำทัพ ครัวไทยสู่โลก รุกยุทธศาสตร์พัฒนาบุคลากร สินค้าอาหารไทยในแดนสแกนดินิเวีย ประเดิมเดนมาร์ก-สวีเดน เปิดเจรจาร่วม Copenhagen Hospitality Collage พร้อมส่งคาราวานครัวไทยติวเข้มเชฟไทยในต่างแดนกว่า 100 ชีวิต เผยอาหารไทยเป็นที่นิยมสูงสุดในประเทศเดนมาร์ก เป้าปี ‘51 แถบสแกนดินิเวียโตเพิ่ม 10 %
นายพิมล ศรีวิกรม์ รักษาการเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการครัวไทยสู่โลก เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการครัวไทยสู่โลกได้เร่งดำเนินการยุทธศาสตร์พัฒนาบุคลากรและสินค้าอาหารไทย มีเป้าหมายในพื้นที่แถบสแกนดินิเวีย เริ่มที่ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งอาหารไทยได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอับดับ 1 ในประเทศนี้ สำหรับการเปิดตลาดยุโรปครั้งนี้ เริ่มจากการเปิดเจรจา-ลงนามความร่วมมือโครงการแลกเปลี่ยนเชฟระหว่างประเทศไทย-เดนมาร์ก ด้วยความร่วมมือจาก Copenhagen Hospitality Collage ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนเชฟในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และได้จัดให้มีโครงการอบรมหลักสูตรพัฒนาเทคนิคการประกอบอาหาร สำหรับพ่อครัว-แม่ครัวไทยในประเทศเดนมาร์ก-สวีเดน
โครงการแลกเปลี่ยนเชฟ ระหว่างโครงการครัวไทยสู่โลก (ฝ่ายไทย) กับ Copenhagen Hospitality Collage โรงเรียนสอนเชฟในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก มีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะและประสบการณ์การทำอาหารของเชฟ อันจะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมของอาหารการกินทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งเชฟร้านอาหารไทยในประเทศเดนมาร์กก็จะเกิดความชำนาญในการใช้วัตถุดิบอาหารและเกิดทักษะในการปรุงรสอาหาร ซึ่งจะทำให้เชฟเกิดความตื่นตัวที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง อันจะนำไปสู่โอกาสของเชฟที่จะก้าวขึ้นไปสู่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต่อไป ซึ่งผลการเจรจาคาดว่าจะสามารถลงนามความร่วมมือและจัดส่งบุคลากรไทยไปฝึกอบรมการทำอาหารไทยได้ประมาณปลายปี 2549
นอกจากนี้ยังได้จัดโครงการอบรมหลักสูตรพัฒนาเทคนิคการประกอบอาหารสำหรับพ่อครัว-แม่ครัวไทยในประเทศเดนมาร์ก-สวีเดน ซึ่งเป็นประเทศแรกของประเทศเป้าหมายกว่า 20 ประเทศทั่วโลกภายในสิ้นปี 2549 พร้อมทั้งได้นำวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโยลีราชมงคลธัญบุรี อบรมให้ความรู้ด้านการคัดเลือกสินค้าอาหารไทย การปรุงรสชาติมาตรฐานอาหารไทยให้กับพ่อครัว-แม่ครัวคนไทยที่ไปทำงานในประเทศเดนมาร์ก และสวีเดนกว่า 100 คน
ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยจำนวน 111 แห่ง กระจายอยู่ในประเทศเดนมาร์ก ซึ่ง 40 แห่งอยู่ในกรุงโคเปนเฮเกน โดยมีในรูปแบบของร้านที่บริการในลักษณะแฟรนไชส์อาหารไทย ภัตตาคาร และแบบ take-away ร้านดังกล่าวมีทั้งที่ดำเนินการโดยคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งอาหารไทยเป็นที่นิยมสูงสุดในประเทศเดนมาร์ก และคาดว่าภายในปี 2551 โครงการครัวไทยสู่โลกสามารถขยายฐานลูกค้าอาหารไทยเพิ่มอีกร้อยละ 10 ในประเทศแถบสแกนดินิเวีย
ทั้งนี้ ครึ่งปีที่ผ่านมา โครงการครัวไทยสู่โลก ได้ขยายจำนวนร้านเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 ร้าน ทำให้ปัจจุบันทั่วโลกมีร้านอาหารไทยแล้วจำนวน 9,000 ร้าน คาดว่าสิ้นปีจะครบ 12,000 ร้าน และคาดว่า 2551 จะขยายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ 20,000 ร้านทั่วโลก
ส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ทางภาครัฐได้ร่วมกับทางสถาบันการเงินต่างๆ อาทิ เอ็กซิมแบงก์ และเอสเอ็มอีแบงก์ ที่จะให้สิทธิประโยชน์กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ในการปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งขณะนี้ภาครัฐได้จัดสรรสินเชื่อไว้ประมาณ 2,000 — 3,000 ล้านบาท นายพิมลกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท คิธแอนด์คินฯ จำกัด นิตยา 02-663-3226 ต่อ 69

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๒ ธนาคารทองคำลาว จับมือกับ ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส พัฒนาคอร์แบงกิ้ง สร้างเสถียรภาพระบบสำรองทองคำ และบริการทางการเงิน
๑๖:๓๗ กรมทรัพย์สินทางปัญญา คว้ารางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 ยกระดับการให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
๑๖:๑๐ RSP คว้าสิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ COVERNAT จากเกาหลี พร้อมปูทางสู่ตลาดแฟชั่นไทยอย่างเต็มตัว
๑๖:๐๓ HAY จับมือ Scope เปิดตัวคอลเลกชัน HAY Dogs ครั้งแรกใน SEA ณ สโคป พร้อมศรี
๑๖:๔๔ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เชื่อมคอร์สพัฒนาทักษะในแพลตฟอร์ม ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ยกระดับชีวิตสังคมดิจิทัล
๑๖:๒๐ ไทยสจ๊วต ร่วมออกบูธ งาน RESTECH 2024
๑๖:๐๔ ธนพิริยะ (TNP) ร่วมสนับสนุน ทีมกู้ภัยศิริกรณ์เชียงราย และ ผู้ประสบภัย จากน้ำท่วม จ.เชียงราย
๑๖:๔๕ ASIAN และบริษัทในเครือ ร่วมกับมูลนิธิสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล บริจาคอาหารกระป๋อง จำนวน 70,000 กระป๋อง ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย
๑๖:๒๑ LE ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ Installation Guide for Lighting
๑๖:๕๙ อ.อ.ป. ร่วมวางพวงมาลาสดุดีวีรชนป่าไม้ ในโอกาสครบรอบ 128 ปี กปม.