กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--ปภ.
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประสานทุกจังหวัดเตรียมพร้อม ตั้งด่าน/จุดตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร เข้มงวดการจำหน่ายสุราปลีก จัดโซนเล่นสาดน้ำให้ชัดเจน และให้จังหวัดที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกับกรุงเทพและเส้นทางออกสู่ภาคต่าง ๆ ประสานการปฏิบัติเพื่อกำหนดนโยบายในการระบายรถ พร้อมให้ดูแล อำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนตลอดการเดินทาง
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2549 ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เป็นผลให้ปริมาณการใช้รถบนถนนหลวงสายต่าง ๆ มีความหนาแน่น และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าช่วงเวลาปกติ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน จึงได้ประสานไปยังจังหวัดต่าง ๆ ขอให้ดำเนินการตามแผนงานและมาตรการเพื่อความปลอดภัยในช่วงระหว่างวันที่ 7-16 เมษายน 2549 อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตั้งด่าน/จุดตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร (เมาไม่ขับ มอเตอร์ไซด์ปลอดภัย สวมใส่หมวกนิรภัย มีใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด), บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง ซ่อมแซมเครื่องยนต์ ให้การปฐมพยาบาลและช่วยเหลือผู้ประสบภัย บนถนนสายหลักเส้นทางสำคัญ ๆ, สอดส่อง ดูแล ไม่ให้มีการจำหน่ายสุราบริเวณสถานศึกษา ศาสนสถาน และสถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งบริเวณที่ต่อเนื่องกับบริเวณดังกล่าว ประสานกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตให้กำหนดเวลาขายสุราสำหรับผู้ที่ได้อนุญาตขายสุราปลีก, พิจารณากำหนดพื้นที่การเล่นสาดน้ำในเขตชุมชน/หมู่บ้านให้ชัดเจนและเหมาะสม สำหรับจังหวัดปริมณฑล และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจังหวัดที่เป็นรอยต่อเส้นทางออกสู่ภาคต่าง ๆ ให้ประสานการปฏิบัติร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธร องค์กรปกครองส่วนนท้องถิ่น และแขวงการทาง เพื่อกำหนดนโยบายในการระบายรถ อำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการเดินทางให้มีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน โดยให้คำนึงถึงความสะดวกควบคู่กับความปลอดภัยเป็นหลัก
เพื่อความปลอดภัย ก่อนการเดินทางขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่อาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดใช้ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ตรวจเช็คสภาพรถและเครื่องยนต์ให้พร้อมก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจได้ว่าในการเดินทางของท่านทั้งไปและกลับจะมีผู้คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้ท่านตลอดเส้นทาง ระหว่างการเดินทาง หากพี่น้องประชาชนประสบปัญหาต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง