กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--ริช เอเชีย สตีล
กระแสตอบรับหุ้น RICH แรง นักลงทุนแห่จองซื้อหุ้นอย่างท่วมท้น สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและอนาคตที่สดใส โบรกเกอร์มองผลประกอบการปี 2549-2550 ยังเติบโตต่อเนื่อง และมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น คาดปีนี้ยอดขายแตะ 5.5 พันลบ.พร้อม ให้ราคาเหมาะสมอยู่ในช่วงระหว่าง 2.40-2.80 บาท/หุ้น
นายเชาว์ อรัญวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH เปิดเผยว่าหลังจากปิดจองซื้อขายหุ้นไอพีโอ ที่เสนอขาย 2.25 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2549 ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโต
" สาเหตุสำคัญที่ทำให้ทั้งนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย ให้ความสนใจจองหุ้น RICH จำนวนมาก น่าจะมาจากธุรกิจของบริษัทที่ยังคงมีทิศทางที่สดใส และที่ผ่านมา RICH ก็มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง"นายเชาว์กล่าว
บริษัทริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายเหล็กโครงสร้าง ประเภทท่อเหล็ก เหล็กตัวซี และเหล็กประเภทอื่นๆ ทุกชนิด เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้หุ้นไอพีโอของบริษัทฯจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดวัสดุก่อสร้างในวันที่ 31 สิงหาคมนี้โดยใช้ชื่อในการซื้อขายว่า " RICH "
วัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูปอุตสาหกรรมและชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น โดยหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ จะส่งผลให้ทุนชำระแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 400 ล้านบาท
ในการจำหน่ายหุ้นครั้งนี้ RICH ได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บีที จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด,บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าหุ้น RICH มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยได้ประเมินราคาเหมาะสมของหุ้นไว้ที่ระดับ 2.40-2.80 บาท/หุ้น โดย บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ประเมินผลการดำเนินงานปี 2549 คาดว่ายอดขายของบริษัทจะยังคงเติบโตต่อเนื่องประมาณ 14% อยู่ที่ 5,588 ล้านบาท จากภาวะราคาเหล็กเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/49 และบริษัทเริ่มผลิตสินค้าระดับพรีเมี่ยมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปี 2549 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 5.32% และกำไรสุทธิจะเติบโตเป็น 149 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.30 บาท
ขณะที่ปี 2550 คาดยอดขายจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 6,384 ล้านบาท เติบโต 14% กำไรสุทธิอยู่ที่ 175 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.35 บาท การประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ RICH โดยใช้ P/E ของกลุ่มเหล็กที่ระดับ 8 เท่า เทียบกับกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 49 ที่ 0.30 บาท และปี 50 ที่ 0.35 บาทดังนั้น Fair Value ปี 49 เท่ากับ 2.40 บาท และปี 50 เท่ากับ 2.80 บาท โดยให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ในปี 49-50 เท่ากับ 5.88% และ
6.91% ตามลำดับ
ทางด้าน บล.บีที ให้ความเห็นว่าภายใต้สถานการณ์เหล็กกลับสู่ภาวะปกติ คาดปริมาณขายเหล็กปรับตัวดีขึ้น เฉลี่ย 280,000 ตัน และ 308,000 ตัน ในปี 2549 และ 2550 ตามลำดับ และภายหลังระดับราคาเหล็กปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านและต่อเนื่องมายัง Q1/2549 คาดภายหลังผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งในประเทศ
และต่างประเทศมีการรวมตัวกันมากขึ้นคาดทำให้ราคามีการปรับตัวดีขึ้น คาดเฉลี่ย 19,000 บาท/ตัน ในปี 2549 และ 19,950 บาท/ตัน ในปี 2550 คาดรายได้ขาย 5,320 ล้านบาท และ 6,145 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 8.5% และ 15.5% ในช่วงเวลาดังกล่าว คาด Gross Profit Margin เฉลี่ย 5.9% และ6.5% และคาดค่าใช้จ่ายขายและบริหาร เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10%ต่อปี คาดกำไรสุทธิ 155 ล้านบาท และ 224 ล้านบาท ในปี 2549 และ 2550 หรือคิดเป็น 0.31 บาท/หุ้น และ 0.45 บาท/หุ้น ตามลำดับ คาดจ่ายปันผลตามนโยบายไม่ต่ำกว่า 50% ที่ 0.15 บาท และ 0.22 บาท ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ กำหนดราคาเป้าหมายปี 2549 ที่ 2.48 บาท โดยใช้ P/E ที่ 8 เท่า ซึ่งเป็นระดับเดียวกับกลุ่ม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณสมร ภู่อิ่ม
โทร : 02-5549394
- ๖ พ.ย. ฟินน์คอร์ปฯ ออกบูทในงาน Graduation Day: New S Curve to Capital Market 2024 | Live Exchange
- ๗ พ.ย. FynnCorp ผนึกกำลัง กองเงินกองทอง จัดกิจกรรม เพิ่มพูนความมั่งคั่ง แนะกลยุทธ์การลงทุนบุคคลและเจ้าของธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
- ๗ พ.ย. PMC ปิดจองซื้อไอพีโอ 115.72 ล้านหุ้น ขายหมดเกลี้ยง! จ่อเทรด mai 11 ก.ย. นี้ ย้ำหนึ่งในผู้นำวงการสติ๊กเกอร์ของอาเซียน