ธนาคารทิสโก้โชว์ผลตอบแทนลูกค้าเวลธ์ปี 63 มีโอกาสรับรีเทิร์นเฉลี่ย 65.71% ใน 1 ปี พร้อมเปิดชื่อกองทุนเมกะเทรนด์สุดฮอตที่ลูกค้าสนใจลงทุน

พุธ ๐๖ มกราคม ๒๐๒๑ ๑๓:๕๓
ธนาคารทิสโก้เปิดผลตอบแทนลูกค้าเวลธ์ปี 63 ชี้มีโอกาสรับรีเทิร์นเฉลี่ย 65.71% ใน 1 ปี หากลงทุนใน 5 กองทุนเมกะเทรนด์ที่แนะนำ พร้อมเปิดโผกองทุนเมกะเทรนด์ยอดนิยมที่ลูกค้าเวลธ์ชอบลงทุน
ธนาคารทิสโก้โชว์ผลตอบแทนลูกค้าเวลธ์ปี 63 มีโอกาสรับรีเทิร์นเฉลี่ย 65.71% ใน 1 ปี พร้อมเปิดชื่อกองทุนเมกะเทรนด์สุดฮอตที่ลูกค้าสนใจลงทุน

นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ (Mrs.Vorasinee Sethabutr, Head Of Wealth Product Development, TISCO Bank Public Company Limited) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมการลงทุนในปี 2563 จะยากลำบาก แต่ด้วยกลยุทธ์การลงทุนของธนาคารทิสโก้ที่มุ่งเน้นให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเวลธ์ ด้วยการเลือกลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับหุ้นเมกะเทรนด์แทนการกระจายสินทรัพย์การลงทุนไปยังรายประเทศนั้น ส่งผลให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าหากลูกค้าลงทุนใน 5 กองทุนเมกะเทรนด์ตามคำแนะนำ ของธนาคารทิสโก้จะมีโอกาสรับผลตอบแทนเฉลี่ย 65.71% และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 74.89% เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีหุ้นไทยซึ่งไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และมีความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ให้ผลตอบแทนติดลบ 9.18%

"จากบริการการให้คำแนะนำกองทุนคุณภาพหลากหลายจาก บลจ.ชั้นนำ (Open Architecture) ประกอบกับมีมุมมองการลงทุน (House View) และทีมที่ปรึกษาการลงทุนที่เป็นของทิสโก้เอง ทำให้เราสามารถเลือกนำเสนอกองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับบลจ.ค่ายใดค่ายหนึ่ง จึงเป็นส่วนหนึ่งทำให้ลูกค้าเวลธ์ของธนาคารทิสโก้มีโอกาสสร้างรีเทิร์นได้เฉลี่ย 65.71% ในปีที่ผ่านมา" นางวรสินีกล่าว

สำหรับกองทุนเมกะเทรนด์ที่รับความนิยมจากลูกค้าเวลธ์ของธนาคารทิสโก้มากที่สุดในปี 2563 คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ Next Generation Internet (TNEXTGEN) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับธีม Next Generation Internet โดยมีเม็ดเงินไหลเข้าประมาณ 3,965.99 ล้านบาท สาเหตุที่กองทุนนี้ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาก อาจเพราะลูกค้าเห็นว่ากองทุนนี้ได้กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอินเทอร์เน็ตที่เป็นอนาคตของโลกหลากหลายประเภทที่จะเข้ามาพลิกโฉมบริการและสินค้าให้เข้าสู่โลกยุคใหม่ และอาจเข้ามาแทนที่ธุรกิจดั้งเดิม ขณะที่อัตราการเติบโตของหุ้นแต่ละตัวที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุนนั้นก็มีความน่าสนใจ

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนที่ธนาคารทิสโก้เตรียมแนะนำลูกค้าเวลธ์ในปี 2564 นั้น ทีมที่ปรึกษาการเงินทิสโก้เชื่อมั่นว่าหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์จะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ แต่สำหรับการลงทุนระยะสั้นถึงระยะกลาง จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ในช่วงเดือนมกราคม 2564 ธนาคารทิสโก้จะเริ่มแนะนำกลยุทธ์การลงทุนใหม่เพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน

สำหรับรายชื่อกองทุนเมกะเทรนด์ 5 กองทุนที่แนะนำในปี 2563 ได้แก่

1.กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ (TGHDIGI) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในบริษัทที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการแพทย์ (Digital Health) ทั่วโลกมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ย้อนหลัง 1 ปี และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบัน ตามข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 23.90% 42.38% 77.81% ต่อปี 77.81% ต่อปี และ 42.28% ต่อปี ตามลำดับ

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ดัชนีชี้วัด (Benchmark) ของกองทุน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยระหว่างผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อคำนวณผลตอบแทนให้อยู่ในรูปสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน ในสัดส่วน 95% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษี ในสัดส่วน 5% มีผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 7.81% 19.38% 15.97% ต่อปี 15.97% ต่อปี และ 13.05% ต่อปี ตามลำดับ

2. กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบัน ตามข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 13.30% 24.11% 83.44% และ 83.44% ตามลำดับ

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ดัชนีชี้วัดของกองทุน ซึ่งคำนวณจากค่าเฉลี่ยระหว่างผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลักปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนให้อยู่ในรูปสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทนในสัดส่วน 95% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษีในสัดส่วน 5% พบว่า ดัชนีชี้วัดมีผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 7.08% 19.95% 70.74% และ 70.74% ตามลำดับ

3. กองทุนเปิด ยูไนเต็ดเอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี ฟันด์ (UEDTECH) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ประกอบด้วยผู้ผลิตหรือจัดทำข้อมูลด้านการศึกษา แพลตฟอร์มและการนำเสนอข้อมูล รวมไปถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ต่างๆ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันและตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบัน ตามข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 10.22% 18.86% 26.22% และ 26.22% ตามลำดับ

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีชี้วัดของกองทุน ซึ่งได้แก่ ดัชนี MSCI World ESG Leaders (NR) ซึ่งเป็นดัชนีเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวนผลตอบแทน สัดส่วน 100% อยู่ที่ 12.93% 21.19% 14.11% และ 4.04%

4. กองทุนเปิด วรรณ โกบอล อีคอมเมิร์ซ (ONE-GECOM) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้น และ/หรือกองทุนรวม ETF ทั่วโลกที่ลงทุนในกิจการที่มีรายได้หรือได้รับประโยชน์จากช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ย้อนหลัง 1 ปี และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบัน ตามข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 24.86% 55.06% 114.47% ต่อปี 114.47% ต่อปี และ 59.77% ต่อปี ตามลำดับ

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีชี้วัดของกองทุน คือ อัตราผลตอบแทนของดัชนี EQM Online Retail ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่ลงทุน ตามสัดส่วนการทำ Hedging ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอัตราผลตอบแทนของดัชนี EQM Online Retail ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน ตามสัดส่วนที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนอยู่ที่ 30.39% 64.12% 124.62% ต่อปี 124.62% ต่อปี และ 35.53% ต่อปี ตามลำดับ

5. กองทุนเปิด ทิสโก้ Cloud Computing อิควิตี้ (TCLOUD) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี Cloud Computing มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบัน ตามข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 15.53% 26.59% และ 26.59%

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีชี้วัดของกองทุน คือ ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนให้อยู่ในรูป สกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน ในสัดส่วน 100% อยู่ที่ 10.97% 21.38% และ 21.38% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม กองทุน TGHDIGI TBIOTECH และ TCLOUD ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ กองทุน TGHDIGI TBIOTECH UEDTECH และ TCLOUD อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ส่วนกองทุน ONE-GECOM ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน (ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 2 กด 4

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version