เมื่อเร็วๆนี้ จัสโคซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำให้บริการพื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก ได้จัดงานเปิดตัวแพลตฟอร์มอนาคตของการทำงานด้วยดิจิตอล โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม สิงคโปร์ เป็นประธานในพิธีเปิด ทั้งนี้ แพลตฟอร์มใหม่ของจัสโคจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้จากทุกที่และในแบบที่ต้องการตามความจำเป็นส่วนบุคคล ประเภทและพื้นที่ทำงานที่หลากหลายประกอบไปด้วยพื้นที่ที่ยืดหยุ่นและบูธสำหรับนั่งทำงานนอกสถานที่ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับการทำงานจากที่บ้านได้ และโซลูชั่นด้านการทำงานอื่นๆ ที่หลากหลายสำหรับพนักงานตั้งแต่ 1 คนหรือทั้งทีม เพื่อให้การทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่น
จัสโคชูสองนวัตกรรมหลักที่สร้างแพลตฟอร์มการทำงานด้วยดิจิตอล ดังนี้
"Switch" คือแอพลิเคชั่นแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับพื้นที่ทำงานสะดวกใช้ ให้บริการเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นในหลากหลายรูปแบบ ผู้ใช้งานสามารถจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นรายนาที ซึ่งเริ่มต้นเพียงชั่วโมงละ 3.60 เหรียญสิงคโปร์หรือราวๆ 80 บาท ลูกค้าของ Switch สามารถเลือกนั่งทำงานได้ทั้งจากในจัสโคเซ็นเตอร์ พื้นที่แบบแชร์กันนอกจัสโค และบูธทำงานของ Switch ได้ตามความต้องการ โดยมีบูธให้บริการแล้วกว่า 60 บูธตามห้างสรรพสินค้าทั้ง 9 แห่ง[1] ของ Frasers Property ซึ่งกระจายตัวอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและเขตชานเมืองของสิงคโปร์ โดยได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะในย่านชานเมืองที่ถือเป็นทางเลือกใหม่แทนการทำงานจากที่บ้าน โดยมีแผนจะขยายจำนวนบูธอย่างต่อเนื่องไปยังเมืองต่างๆที่จัสโคมีสาขาตั้งอยู่ ซึ่งรวมถึงในกรุงเทพฯ ด้วย
"SixSense" คือเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มีระบบเซ็นเซอร์ในการตรวจวิเคราะห์การใช้พื้นที่ทำงาน ซึ่งสามารถช่วยในการออกแบบสำนักงาน วิเคราะห์การใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญคือการตรวจจับความหนาแน่นของผู้ใช้งานเพื่อสร้างระยะห่างที่ปลอดภัย ซึ่งในขณะนี้มีให้บริการในจัสโคเซ็นเตอร์กว่า 10 แห่งทั่วสิงคโปร์ มอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานได้ทันที ดังนี้
- ผู้ใช้งานเซ็นเตอร์ของจัสโคสามารถตรวจดูความหนาแน่นของโคเวิร์กกิ้งสเปซจากแอพลิเคชั่น พร้อมค้นหาเซ็นเตอร์หรือบูธทำงานทางเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงเซ็นเตอร์ที่มีผู้ใช้บริการอย่างหนาแน่น และเปลี่ยนไปใช้งานในพื้นที่ที่เหมาะสมและสะดวกสบายกว่า
- ทีมงานของจัสโคสามารถตรวจดูความหนาแน่นของการใช้งานแต่ละจุดในเซ็นเตอร์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและเพื่อดูแลจัดการในเรื่องต่างๆ
- ทีมดีไซน์พื้นที่ทำงานของจัสโคยังสามารถใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้จาก SixSense ไปปรับปรุงการก่อสร้างและดีไซน์พื้นที่ทำงานอยู่เสมอ
ทั้ง Switch และ SixSense รวมถึงเครื่องมือดิจิตอลอื่นๆ บนดิจิตอลแพลตฟอร์มของจัสโค จะทำให้การเข้าถึงพื้นที่ทำงานของบริษัทและคนทำงานไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ด้วยการมอบความยืดหยุ่นอย่างสูงสุดในการเลือกพื้นที่ทำงานในสถานที่และในแบบที่ผู้ใช้งานต้องการ นำไปสู่การใช้พื้นที่ทำงานได้ทุกเมื่อที่ต้องการอย่างแท้จริง
คง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของจัสโค กล่าวว่า "เมื่อเกิดการระบาดไปทั่วโลกของโรคโควิด-19 หลายคนทั่วโลกต้องทำงานจากที่บ้านทั้งๆที่ยังไม่พร้อมและไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบางบริษัทก็ทำได้ ในขณะที่บางบริษัทก็ผ่านไปได้อย่างติดขัดและยากลำบาก จัสโคได้เรียนรู้แล้วว่าสิ่งที่คนทำงานต้องการคือเครื่องมือดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานเกิดขึ้นได้ทุกที่และในแบบที่ต้องการ แพลตฟอร์มอนาคตของการทำงานด้วยดิจิตอลของจัสโคคือคำตอบสุดท้ายของปัญหานี้ สำนักงานแบบเดิมๆ ไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป อนาคตของการทำงานคือการมีพื้นที่ที่ยืดหยุ่นและใช้ได้ทันที"
งานเปิดตัวนี้จัดขึ้นที่โคเวิร์กกิ้งเซ็นเตอร์แห่งใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์ ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะ เซ็นเตอร์พ้อยท์ และยังถือเป็นที่ทำการใหม่ของจัสโคสำนักงานใหญ่ และเป็น "เซ็นเตอร์อัจริยะ" แห่งแรกของจัสโคที่ผสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดังนี้
- การเข้าออกด้วยระบบการจดจำใบหน้า และเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นด้วยการจดจำใบหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยเท่านั้น
- การผ่านเข้า-ออกออฟฟิศส่วนตัวและห้องประชุมด้วยโมบายแอพฯ ผ่านระบบบลูทูธแทนการใช้คีย์การ์ด
- คาเฟ่และบาร์ที่ควบคุมด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งบริหารโดยร้าน RATIO บริการสั่งเครื่องดื่มผ่านแอพฯ ของ RATIO และไปรับได้ทันทีเมื่อถึงออฟฟิศ
โดยจัสโคมีแผนนำนวัตกรรมด้านดิจิตอลนำร่องโดยสิงคโปร์นี้ไปใช้ในตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งรวมถึงในกรุงเทพฯ ด้วย
จัสโค เดอะ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 หลังการเปิดสาขา OCBC Centre East ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีบริษัทชั้นนำอย่าง Riots Games ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก TenCent และ SMEs เป็นผู้เช่าพื้นที่ออฟฟิศรายแรกๆ จัสโคยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องด้วยการประกาศเปิดสาขาต่อไปที่ One-North สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Razer รวมถึงสาขาอื่นๆ ที่จ่อคิวเตรียมเปิดดำเนินการในปี 2564 นี้ด้วย
ที่มา: จัสโค
