บริษัท
ที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล ประกาศแต่งตั้งนาย
ไมเคิล แกลนซี เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ประจำประเทศไทย โดยรับหน้าที่ต่อจากนาง
สุพินท์ มีชูชีพซึ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัทฯ ยังได้ประกาศแต่งตั้งนาย
คริส อาร์ชิบอลด์ เป็นกรรมการผู้การคนใหม่ประจำสิงคโปร์การปรับตำแหน่งผู้บริหารในครั้งนี้ ซึ่งมีผลในเดือนมกราคม เป็นส่วนหนึ่งของแผนการถ่ายทอดหน้าที่รับผิดชอบ และเพื่อเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถด้านต่างๆ พร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจ โดยผู้บริหารที่ได้รับการปรับตำแหน่งใหม่ทั้งสาม จะอยู่ในการกำกับดูแลของนายคริส ฟอสสิค ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นายฟอสสิค กล่าวว่า "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด และเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์มีพลวัตรสูง เราจำเป็นต้องสร้างหลักประกันว่า เราจะก้าวล้ำนำหน้าอยู่เสมอและให้บริการที่มีมาตรฐานสูงแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงครังนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากความเชี่ยวชาญและความรู้เชิงลึกของบุคลากรของเรา ซึ่งมีแพล็ตฟอร์มเทคโนโลยีต่างๆ อันทรงประสิทธิภาพของเราสนับสนุน นอกจากนี้ การมีผู้นำทีมที่เข้มแข็งดูแลธุรกิจในแต่ละประเทศของภูมิภาคนี้ ทำให้เรามีความพร้อมในการช่วยลูกค้าก้าวสู่อนาคตของโลกอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ"สำหรับประเทศไทย นางสุพินท์ก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร หลังจากอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการตลอด 17 ปีที่ผ่านมาและมีผลงานโดดเด่นในการบริหารและขยายธุรกิจ ด้วยประสบการณ์สูงในภาคอสังหาริมทรัพย์ นางสุพินท์ในหน้าที่ใหม่จะดูแลการขับเคลื่อนกลยุทธ์หลักๆ ทางธุรกิจและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ได้ช่วยบริษัทสร้างขึ้นในตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา"ดิฉันภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างการเติบโตอย่างมากให้กับธุรกิจของเจแอลแอลในประเทศไทยในช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา และหลังจากที่อยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการมานานเกือบ 20 ปี จึงนับเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งใหม่ที่มีบทบาทในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ดิฉันเชื่อว่า การผสมผสานระหว่างประสบการณ์ของดิฉันกับความเชี่ยวชำนาญของไมเคิล บวกกับการสนุบสนุนจากทีมงานที่เข้มแข็งของเราในประเทศไทย จะช่วยส่งเสริมให้เจแอลแอลจะสามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งในขณะนี้และต่อไปในอนาคต" นางสุพินท์กล่าวว่านายแกลนซีรับหน้าที่รับผิดชอบดูแลการเติบโตทางธุรกิจโดยรวมของบริษัท ทั้งนี้ นายแกลนซีได้ทำงานกับเจแอลแอลที่ฮ่องกงนับตั้งแต่ปี 2553 ก่อนที่จะย้ายมาดูแลรับผิดชอบกลุ่มธุรกิจซื้อขายให้เช่าของเจแอลแอลในประเทศไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2563 นายแกลนซีจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหัวหน้าสายธุรกิจต่างๆ ทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาคของเจแอลแอล เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทย"นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้รับตำแหน่งใหม่นี้ และผมจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับคุณสุพินท์ สำหรับปีนี้ มีความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่างๆ เกิดขึ้นมากมายกับเจแอลแอลในประเทศไทย ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นเอื้อประโยชน์มากขึ้นให้ทั้งกับพนักงานและลูกค้าของเราต่อไป เรามีความพร้อมในการรับโอกาสและเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ที่รออยู่ ในขณะเดียวกันเรามีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการให้บริการสำหรับลูกค้าของเราในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป" นายแกลนซีกล่าวส่วนนายอาร์ชิบอลด์ซึ่งได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ประจำสิงคโปร์ ทำงานกับเจแอลแอลที่สิงคโปร์มานาน 17 ปี มีบทบาทนำในธุรกิจให้เช่าพื้นที่สำนักงาน ก่อนขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าธุรกิจให้เช่าประจำสิงคโปร์ในปี 2561 สำหรับในตำแหน่งใหม่ นายอาร์ชิบอลด์จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์การขายและการพัฒนาธุรกิจ โดยผสานความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจในระดับประเทศและระดับภูมิภาค รวมจนถึงการเป็นผู้นำทีมในการให้บริการคำปรึกษาแก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของและนักลงทุนในอาคารสำนักงานนายฟอสสิคกล่าวว่า "ในขณะที่เราอยู่ในช่วงเวลาที่ซับซ้อนที่สุดที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เคยประสพมา ผมดีใจที่ได้เป็นผู้นำทีมงานมืออาชีพระดับโลกของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการสร้างความสำเร็จของเราในภูมิภาคนี้ต่อไป ควบคู่ไปกับการอยู่เคียงข้างกับลูกค้าของเรา คอยให้คำปรึกษาแบบมืออาชีพและทันท่วงทีตามความต้องการของลูกค้า"