- เปิดสำนักงานที่นิวยอร์กซิตีและเดนเวอร์ตามความต้องการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นของสหรัฐสำหรับโซลูชันการชำระเงินทางธุรกิจ
- ระดมเงินทุน Series C มูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ โดยการนำของบริษัท Tiger Global Management ด้วยความร่วมมือจากบริษัท Greenoaks Capital และผู้ลงทุนเดิมรายอื่น ๆ ทั้งหมด
- ธุรกิจเทคโนโลยีชำระเงินบนคลาวด์ทำกำไรเพิ่มขึ้นสามเท่าตามการประมวลผลการชำระเงินในปี 2020 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 500 บริษัท รวมถึง Coinbase, Pizza Hut, H&M, Grab, Klarna, Farfetch และ Telegram ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
Checkout.com ผู้ให้บริการโซลูชัน Connected Payments(TM) ประกาศวันนี้ว่าได้ปิดการระดมเงินทุนรอบ Series C มูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าหลังการลงทุนเท่ากับ 15,000 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นธุรกิจที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนมากที่สุดของ EMEA [1] ในขณะที่ธุรกิจยังคงขยายตัวไปทั่วโลก
บริษัท Tiger Global Management, LLC ซึ่งเป็นหัวหอกในการระดมเงินทุนสำหรับ Series C เป็นผู้ลงทุนทางเทคโนโลยีที่ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก เป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและเป็นผู้นำตลาด รวมถึง Facebook, LinkedIn, Spotify, ByteDance และ JD.com ในขณะที่บริษัท Greenoaks Capital ก็เข้าร่วมในรอบการลงทุนนี้กับบรรดาผู้ลงทุนเดิม ได้แก่ Insight Partners, DST Global, Coatue Management, Blossom Capital, Endeavor Catalyst และ Sovereign Wealth Fund GIC ของสิงคโปร์
Guillaume Pousaz ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Checkout.com กล่าวว่า "การชำระเงินมีผลต่อทุกสิ่งตั้งแต่การเดินทางของลูกค้า ไปจนถึงความสามารถของบริษัทที่จะเข้าสู่ตลาดใหม่หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การระดมเงินทุนครั้งล่าสุดนี้สะท้อนถึงความเป็นผู้นำทางการตลาดและขนาดของความมุ่งหวังของเรา ในขณะที่เราเร่งทำภารกิจเพื่อเสริมอำนาจให้ผู้ค้าเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ผลักดันให้เกิดผลกำไรมากขึ้น และสร้างโมเดลธุรกิจที่มีนวัตกรรมโดยสร้างจินตนาการใหม่สำหรับปฏิสัมพันธ์ด้านบริการทางการเงิน ผู้ลงทุนใหม่ของเรานำความหลากหลายของประสบการณ์มาสู่การชำระเงิน เทคโนโลยี และบริษัทที่กำลังเติบโต อันเป็นความรู้สำคัญสำหรับขั้นตอนต่อไปเพื่อการเติบโตของเรา ในขณะที่ยังคงสร้างวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของ Connected Finance(TM)"
การลงทุนในอนาคตของการชำระเงิน
งานวิจัยจาก McKinsey & Company ให้ความสำคัญกับขนาดของโอกาสในการชำระเงิน ด้วยรายได้จากการชำระเงินทั่วโลกโดยรวมเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2019[2] ในขณะเดียวกัน รายงานล่าสุดของ Checkout.com ที่จัดทำร่วมกับ Oxford Economics[3] ได้เผยถึงระดับความท้าทายที่ผู้ค้าจำนวนมากเผชิญอยู่ โดยขาดทุนถึง 20,300 ล้านดอลลาร์เนื่องจากการปฏิเสธการชำระเงินที่ผิดพลาดในปี 2019 เพียงอย่างเดียว และเงินกว่า 12,700 ล้านดอลลาร์ได้ถูกส่งผ่านจากผู้ค้าที่เป็นตัวเลือกแรกไปสู่คู่แข่งรายอื่น นอกจากนั้น ลูกค้าที่ยกเลิกการซื้อทางออนไลน์ที่ตั้งใจไว้มีผลให้ผู้ค้าสูญเสียโอกาสทางการค้าเป็นมูลค่ามากกว่า 7,600 พันล้านดอลลาร์ Checkout.com แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยมอบเครื่องมือเชิงรุกอย่างเต็มที่ให้แก่ธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม และควบคุมได้มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ข้อมูลที่ทันสมัย เครื่องมือจัดการการฉ้อโกง และการรายงานที่ครอบคลุม
การระดมเงินทุนเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจโลกมองข้ามการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมานั้น องค์กรหลายแห่งต่างพึ่งพาระบบที่สามารถครอบคลุมการชำระเงินได้ทุกรูปแบบ ดังนั้นความจำเป็นในการผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น มีการชำระเงินที่โปร่งใส และแยกข้อมูลที่ผ่านการคัดกรองแล้วออกจากข้อมูลดิบ จึงกลายเป็นตัวกำหนดความแตกต่างในการแข่งขัน แพลตฟอร์มที่รวมอยู่ในที่เดียวกันบนคลาวด์ของ Checkout.com ช่วยให้ผู้ค้าจัดการเรื่องการรับชำระเงินและการจ่ายเงินจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับปรุงอัตราการยอมรับให้ดีขึ้นในทั่วโลก ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำต่าง ๆ เช่น Farfetch, Mango, Victoria's Secret, L'Occitane และ The Hut Group ใช้แพลตฟอร์มที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ ปรับเปลี่ยนได้ และปลอดภัยของ Checkout.com เพื่อช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและกำหนดราคาอย่างละเอียดในทุกการทำธุรกรรม
Checkout.com จะยังคงนำผลกำไรจากการดำเนินงานในปัจจุบันกลับไปลงทุนใหม่เพื่อสร้างอำนาจในการเติบโตสำหรับอนาคต โดยเงินทุนใหม่นี้จะนำไปใช้เพื่อสร้างการเติบโตของงบดุล และผลักดันให้เกิดโอกาสทางนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยการระดมเงินทุนมูลค่ารวม 830 ล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Checkout.com มีเงินสดพร้อมในการนำเสนองบดุลที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินทั่วโลก ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้กับความยืดหยุ่นของบริษัทในฐานะนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดกฎหมายในตลาดหลายแห่ง และในฐานะพันธมิตรทางการเงินของผู้ค้าต่าง ๆ และยังทำให้มีการลงทุนเชิงกลยุทธ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น โซลูชันการจ่ายเงินของ Checkout.com ซึ่งเห็นได้ถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงปีที่ผ่านมา
Checkout.com เปิดสำนักงานใหญ่ในอเมริกาเหนือ
นอกจากวันนี้จะประกาศการระดมทุนใน Series C แล้ว Checkout.com ยังได้ประกาศเรื่องการเปิดสำนักงานในนิวยอร์กซิตีด้วย บริษัทเริ่มเปิดตัวในสหรัฐเมื่อปี 2017 และดำเนินงานในซานฟรานซิสโก สำนักงานในฝั่งมหาสมุทรทั้งสองแห่งจะส่งเสริมความสามารถขององค์กร เพื่อให้เติบโตตามความต้องการในสหรัฐสำหรับโซลูชัน Connected Payments(TM) ในขณะที่ Checkout.com มุ่งมั่นที่จะให้บริการบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่ในสหรัฐมากขึ้นในเรื่องการชำระเงินภายในประเทศ ทั่วโลก และข้ามประเทศ บริษัทยังประกาศเปิดสำนักงานในเดนเวอร์อีกด้วย Checkout.com จะจ้างพนักงานเพิ่มอีก 700 คนในทุกที่ตั้งสำนักงานทั่วโลกในปี 2021
วิธีการรับชำระเงินและการจ่ายเงินโฉมใหม่ของ Checkout.com ได้สั่งสมชื่อเสียงว่าเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือมากที่สุดเบื้องหลังบริษัทเทคโนโลยีการเงินที่ทรงคุณค่าและธุรกิจที่ล้ำสมัย รวมถึง Klarna, Revolut, Transferwise, Coinbase และ eToro ด้วยแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับทั้งการรับชำระเงินและการจ่ายเงินทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด Checkout.com กลายมาเป็นหลักของโมเดลธุรกิจที่ก้าวหน้ากว่าใคร ท่ามกลางเทคโนโลยีการเงิน การบริการด้านสตรีมมิง และสื่อกลางสำหรับการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ชั้นนำต่าง ๆ
Scott Shleifer พันธมิตรของ Tiger Global Management กล่าวว่า "เราตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Guillaume และ Checkout.com ที่สร้างแพลตฟอร์มทางการเงินและการชำระเงินระดับโลกที่มีนวัตกรรม ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากบริษัทอินเทอร์เน็ตชั้นนำ เราเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนเข้าสู่การพาณิชย์ดิจิทัลยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้น และการที่ Checkout.com ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สุดยอดช่วยทำให้บริษัทมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่กำลังจะมาถึงในไม่อีกกี่ปี"
ในเดือนมิถุนายน 2020 Checkout.com ประกาศระดมทุนรอบ Series B ซึ่งมีมูลค่าธุรกิจ 5,500 ล้านดอลลาร์ และนำโดยบริษัท Coatue Management ที่ให้เงินทุนด้านเทคโนโลยี ในปี 2020 บริษัทยังได้ประกาศควบรวม ProcessOut และ PinPayments และเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัท Thunes
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
- สำหรับการดำเนินงานในยุโรป Checkout.com เพิ่งแถลงผลประกอบการปี 2019 ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง กำไรรวมเพิ่มขึ้น 96% เป็น 146,384 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 74,826 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 สามารถเข้าดูบัญชีทั้งหมดสำหรับการดำเนินงานของ Checkout.com ในยุโรปได้ที่ https://find-and-update.company-information.service.gov.uk/company/08037323
เกี่ยวกับ Checkout.com
Checkout.com เสริมพลังให้ธุรกิจในการปรับตัว สร้างนวัตกรรม และเติบโตไปพร้อมกับ Connected Payments(TM) ที่คู่ควร เทคโนโลยีของบริษัททำให้การชำระเงินไร้รอยต่อ โซลูชันที่ยึดหยุ่น ข้อมูลที่ละเอียด และความเข้าใจที่ลึกซึ้งในทันทีช่วยให้บริษัททั่วโลกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดใหม่ และสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าที่ไม่เหมือนใคร โดยให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือมากที่สุด รวดเร็วที่สุดในกว่า 150 สกุลเงิน ด้วยเครื่องมือคัดกรองและการรายงานการฉ้อโกงที่สุดยอดจากภายในประเทศซึ่งเชื่อมต่อผ่าน API 1 ช่องทาง และสามารถรับบัตรเครดิตและบัตรเดบิตต่างประเทศของบริษัทใหญ่ทุกบริษัท รวมถึงทางเลือกยอดนิยม และวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น Checkout.com เปิดตัวในปี 2012 และในขณะนี้มีทีมงาน 1,000 คนในสำนักงาน 17 แห่งทั่วโลก ที่เสนอความเชี่ยวชาญในพื้นที่ที่มีความต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.checkout.com
Twitter | LinkedIn
[1] PitchBook มกราคม 2021
[2] รายงานการชำระเงินทั่วโลกของ McKinsey ปี 2020, McKinsey & Company ตุลาคม 2020
[3] กล่องดำและปฏิทรรศน์: ต้นทุนที่แท้จริงของการชำระเงินที่ไม่มีการเชื่อมต่อ Checkout.com กรกฎาคม 2020
ติดต่อฝ่ายข่าว Checkout.com: [email protected]