"วิธีการบริหารกองทุนทริกเกอร์ของกองทุนบัวหลวง เราใช้การจับจังหวะซื้อขายหุ้นรายตัวแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนอื่นที่เน้นการลงทุนระยะยาว และในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงและเป็นขาขึ้น ประกอบกับการคัดเลือกหุ้นที่แม่นยำของทีมผู้จัดการกองทุน จึงทำให้กองทุน TRIGGER 9-21 ทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมาย 8% ในเวลาอันสั้น ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่มุ่งมั่นทำงานกันอย่างเต็มที่ จนนำมาสู่ความสำเร็จที่เกิดขึ้น และต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกลงทุนกับกองทุนบัวหลวง" นายพีรพงศ์ กล่าว
สำหรับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย นายพีรพงศ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากข่าวดีเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อันเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้มี เม็ดเงินจากต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ในปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาหุ้น ณ ขณะนี้ยังไม่ได้สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และต่างชาติเริ่มกลับมามีมุมมองบวกกับตลาดในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับการลงทุนในหุ้นไทย
ทั้งนี้ กองทุนบัวหลวงยังเชื่อมั่นว่าการลงทุนระยะยาว ยังเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนที่จะทำให้ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ขณะเดียวกันในสภาวะการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนอย่างปัจจุบัน ก็มีโอกาสหาผลตอบแทนเพิ่มเติมในรูปแบบของทริกเกอร์ฟันด์ด้วยเช่นกัน ซึ่งกองทุนบัวหลวงกำลังพิจารณารูปแบบกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอแก่ผู้ลงทุนต่อไปในอนาคต
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: กองทุนบัวหลวง