ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา กล่าวว่า โรคระบาดไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ในอดีตก็มีโรคต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย อย่างไรก็ดีไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับโรคใดโรคหนึ่ง เนื่องจากแต่ละโรคมีการแพร่กระจายไม่เหมือนกัน วิกฤติจะเป็นแรงผลักดันให้ทุกฝ่ายร่วมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ไว้ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดร่วมกัน
เมื่อกล่าวถึงงานวิจัย หรือนวัตกรรม เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ต้องประกอบด้วยความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เงินทุนวิจัย เครื่องมือวิจัย และการสร้างเครือข่ายวิจัย จากการทุ่มเททำงานด้านการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัยมหิดลตลอดเวลาที่ผ่านมาจนได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชนชาวไทย และอยู่ในอันดับโลก ทำให้ภารกิจและบทบาทของมหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ได้ทำเพียงเพื่อคนไทย แต่เพื่อมวลมนุษยชาติ ตามพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน กล่าวต่อไปว่า สถาบันiNT เป็นส่วนงานของมหาวิทยาลัยมหิดลที่มีภารกิจในระดับประเทศโดยทำหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือวิจัย และสร้างเครือข่ายวิจัยทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันการดำเนินงานวิจัยให้ตอบสนองต่อภาวะ COVID-19 ได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที
ซึ่งงานวิจัยที่ตอบสนองต่อภาวะ COVID-19 ตามความคาดหวังของสังคมที่ดำเนินการโดยนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดลนั้น ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันโรค การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรค อาทิ งานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีน งานวิจัยเพื่อการพัฒนาหน้ากากที่มีคุณภาพสูง ชุดตรวจหาเชื้อ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ทางการแพทย์ และสำหรับประชาชนทั่วไปตลอดจนการวิจัยเชิงสังคมที่ทำให้อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ
"ในฐานะมหาวิทยาลัยมหิดล บทบาทใหญ่ของเราก็คือเรื่องของการวิจัย การศึกษา และการสร้างนวัตกรรม โดยเราจะทำหน้าที่ของเราตรงนี้ให้ดีที่สุด และพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย ถึงเวลาแล้วที่เราต้องจับมือกันเชื่อว่ามหาวิทยาลัยมหิดลและประเทศไทยจะช่วยกันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ดีที่สุด" ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน กล่าวให้ความเชื่อมั่นทิ้งท้าย
ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล