โดยกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญและยังคงเน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบาย
3 S คือ Safety, Security และ Sustainability ของภาคเกษตรและระบบอาหารให้มีความยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมความปลอดภัยอาหารให้ได้มาตรฐานสากลและถูกหลักโภชนาการ การสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สุขภาพ ความปลอดภัยชีวภาพ และให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี และการสนับสนุนการทำเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคระบาดพืชและสัตว์ และการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ทำการเกษตร รวมถึงสนับสนุนการเข้าไปมีส่วนร่วมด้านดินใน Global Soil Partnership (GSP) ภายใต้ FAO และด้านน้ำในเวทีระดับโลก เช่น World Water Forum, Global Water Partnership (GWP) และ UNESCO-IHP เพื่อสนับสนุนการจัดการทรัพยากรดินและน้ำอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการจัดเก็บข้อมูล Big Data ด้านดิน น้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคและโรคระบาดของพืชและสัตว์ อันจะนำไปสู่การวางแผนการผลิตที่แม่นยำ ตอบสนองความมั่นคงอาหารที่ยั่งยืน โดยในส่วนของประเทศไทย ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Big Data: NABC) เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านการเกษตรของประเทศ และนำข้อมูล Big Data มาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจ และภัยพิบัติทางการเกษตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการจัดทำปฏิทินผลผลิตสินค้าเกษตรรายเดือนระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดเพื่อวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำถึงการสนับสนุนการจัดการทรัพยากรดินและน้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนของภาคเกษตรและระบบอาหาร โดยประเทศไทยพร้อมมีส่วนร่วมตามพันธกรณีต่าง ๆ และจะทำงานร่วมกับ FAO และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพร้อมสนับสนุนการนำนโยบายด้านระบบอาหารโลกไปผลักดันให้เกิดผลปฏิบัติจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 2 (Zero Hunger), SDG 13 (Climate Change) และ SDG 15 (Life on Land) และเป้าหมายของการประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านระบบอาหารโลก (2021 UN Food Systems Summit) ซึ่งประเทศไทยได้แต่งตั้งผู้ดำเนินการเตรียมการจัดประชุมระดับผู้นำด้านระบบอาหารโลก (National Dialogues Convenor) เพื่อรวบรวมข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบอาหาร และนำไปจัดทำนโยบายและกิจกรรมเพื่อรายงานต่อที่ประชุมระดับผู้นำฯ ในช่วงปลายปีนี้ด้วย
ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์