บทวิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนปี 64 โดย แฟรงคลิน เทมเพิลตัน เผยปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือ และชี้โอกาสการลงทุนยังมีท่ามกลางวิกฤต

ศุกร์ ๒๒ มกราคม ๒๐๒๑ ๑๔:๓๘
แนวโน้มการลงทุนปี 2564: " ขณะที่เราก้าวเข้าสู่ปี 2564  เราก็กำลังเข้าใกล้จุดที่ภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปีที่แล้ว กลายเป็นเพียงบทนำเรื่องราวทางเศรษฐกิจในอนาคต เราคาดว่าเศรษฐกิจหลาย ๆ ภูมิภาคจะดีขึ้นเนื่องจากโลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคหลังโควิด อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงในระยะสั้นอยู่มาก"

ดร. ไมเคิล ฮาเซนสเตบ รองประธานบริหารประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน เทมเพิลตัน โกลบอล แม็คโคร (Templeton Global Macro)

มองแวบแรกดูเหมือนไม่มีอะไรในปี 2564 ที่จะเลวร้ายได้เท่าปี 2563 เราได้เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายสุดในรอบ 80 ปีและวิกฤตสุขภาพโลกที่หนักหน่วงที่สุดในรอบ 100 ปีซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อชีวิตและการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2563 เศรษฐกิจโลกจะหดตัว 4.4%   ยังมีแสงสว่างรำไรให้เห็นเมื่อเข้าสู่ปี 2564  เรากำลังเข้าใกล้ถึงจุดที่ภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปีที่แล้ว จะกลายเป็นบทนำไปสู่บทใหม่ของเศรษฐกิจในอนาคต  IMF ยังได้คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2564 จะขยายตัวถึง 5.2% ดีขึ้นจากระดับต่ำสุดของปีที่แล้ว วัคซีนที่เป็นความหวังของทั่วโลกมีการทดลองในหลายเคสและจะถูกส่งไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ภายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีศักยภาพลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงครึ่งหลังของปี ถ้ามองโลกในแง่ดีเรากำลังก้าวไปสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันรุนแรงกว่าที่คาดกันไว้มาก การแพร่ระบาดรอบสองของโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูงอย่างน่าตกใจในยุโรปและสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนท้าย ๆ ของปี 2563 ทำให้หลายภูมิภาคต้องกลับสู่มาตรการล็อกดาวน์ การแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดบางพื้นที่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2563 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรกของปี 2564 ในกรณีที่ไม่มีมาตรการแก้ไขการแพร่ระบาด จะเกิดความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกเดือนที่มีการยกระดับความเข้มงวดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก สำหรับผู้คนและธุรกิจจำนวนมาก "เวลา" เป็นปัจจัยสำคัญที่พวกเขาต้องเผชิญกับการตกงานหรือภาวะล้มละลาย ในแต่ละวันที่ธุรกิจหยุดชะงัก ไม่มีรายได้และสร้างความเสียหายรวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ที่แย่ไปกว่านั้นคือสภาวะที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้มักจะดิ่งลงไปอีกก่อนที่จะผงกหัวปรับตัวดีขึ้นในที่สุด

โอกาสในการลงทุนกำลังปรากฏขึ้นจากมุมของการลงทุน การมองบวกในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ควรสมดุลกันกับการระวังความเสี่ยงระยะใกล้แบบเฉียบพลัน  การระบาดของโรคสร้างความเสียหายต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อสินทรัพย์ทางการเงินจำนวนมหาศาล ผลกระทบในวงกว้างที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อลดลงมีแนวโน้มที่จะคงอยู่จนกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เรายังคงระมัดระวังสินทรัพย์เสี่ยงจากการคาดการณ์การระบาดระลอกสองของโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาว

อย่างไรก็ตามโอกาสในการลงทุนระยะยาวหลายประเภทกำลังเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น เราคาดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหลื่อมกันสำหรับการลงทุนบางประเภท เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างทางด้านเศรษฐกิจมหภาคพื้นฐานและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสในบางประเทศ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 คาดจะพุ่งสู่จุดสูงสุดในช่วงฤดูหนาวก่อนที่วัคซีนอาจทำให้จำนวนการระบาดลดลงในช่วงฤดูร้อนปี 2564 ระยะเวลาและประสิทธิภาพของวัคซีนจะเป็นตัวกำหนดการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญในปีนี้ 

การขาดดุลทางการคลังและหนี้ในระดับสูงส่งผลต่อความเสี่ยงระยะยาวนอกจากนี้การทำแผนการดำเนินทิศทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากแรงกระตุ้นของปี 2564 มีความสำคัญอย่างมาก โดยอัตราการเติบโตระหว่างการฟื้นตัวของปีนี้จะไม่ส่งผลต่อเนื่องไปสู่ปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของโลก (GDP) จะอยู่ในระดับปานกลางโดยจะเติบโต 3.8% ในช่วงปี 2565-2568 ตามการคาดการณ์ของ IMF ประเทศที่พัฒนาแล้วเศรษฐกิจจะเติบโตเฉลี่ย 2.2% ส่วนตลาดเกิดใหม่หรือประเทศกำลังพัฒนาจะเติบโตเฉลี่ย 4.9% ในท้ายสุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะลดน้อยลงเนื่องจากรัฐบาลที่มีภาระหนี้ระดับสูงก่อนการระบาดจะมีงบทางการเงินที่จำกัดและขาดดุลทางการคลังสูงขึ้น อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Debt-to-GDP) เพิ่มขึ้นสูงในทุกประเทศ นโยบายกระตุ้นที่แหวกแนว เช่นทฤษฎีการเงินสมัยใหม่ (Modern Monetary Theory) และการพิมพ์เงินเพื่อชำระหนี้ (Debt Monetization) มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจในแง่การเมืองมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ซึ่งในขณะเดียวกันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจจากรัฐบาลที่ไม่มีวินัยทางการเงิน ในมุมมองของเราทั้งในประเทศและทางภูมิศาสตร์การเมืองอีก 10 ปีข้างหน้าปัจจัยด้านประสิทธิภาพในการบริหารงานรัฐจะถูกเพ่งเล็งมากขึ้น

ความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมืองเพิ่มสูงขึ้นมิติความซับซ้อนของวิกฤตในปัจจุบันคือสภาวะความไม่มั่นคงของโลกที่มีอยู่ก่อนการระบาด ความตึงเครียดด้านปัจจัยทางการเมืองเพิ่มขึ้นสูง กระแสชาตินิยมที่เพิ่มขึ้นและการแบ่งข้างทางการเมืองทำให้หลายประเทศพบกับความยากลำบากในการหาจุดยืนที่จำเป็นร่วมกันในการจัดการกับความท้าทายจากทั้งภายในและภายนอก โควิด-19 ยังทำให้รัฐบาลหลายประเทศบังคับใช้ข้อกฏหมายที่เกินเอื้อมซึ่งจะทำให้เกิดการต่อต้านหรือคัดค้านได้

นอกจากนี้แนวโน้มการทวนกระแสโลกาภิวัตน์หรือ (Deglobalization) ที่มีอยู่ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 จะถูกเร่งให้เกิดเร็วขึ้นเนื่องจากหลายประเทศหันกลับมาให้ความสำคัญกับความกังวลภายในประเทศมากขึ้น ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศกำลังลดถอยลงท่ามกลางระบบเศรษฐกิจหลัก ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนเชิงโครงสร้างไปสู่การผลิตภายในประเทศและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคจะมีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินไปอีกหลายปีข้างหน้า

ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) จะกำหนดสถานการณ์ยุคหลังโควิดปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) จะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางยุคหลังโควิดของโลกขึ้นใหม่ ความร่วมมือกันเป็นอันดีของคนในสังคมและรัฐบาลจะเป็นแรงผลักดันเร่งการฟื้นตัวหรืออาจฉุดรั้งการฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดของประเทศได้ น่าเศร้าที่เราเห็นปัจจัย ESG ที่ไม่แข็งแรงในตลาดเกิดใหม่ในช่วงการแพร่ระบาด ประเทศที่ขาดความพร้อมรับมือโรคระบาดจากระบบการดูแลสุขภาพที่ไม่ดีพอและโครงสร้างพื้นฐานที่ด้อยพัฒนาหรือขาดการเตรียมพร้อมจากวิกฤตเศรษฐกิจเนื่องจากความไม่สมดุลทางการคลัง หนี้ในระดับสูงและการพึ่งพาภาคเศรษฐกิจภายนอก ประเทศเหล่านี้มักได้รับความเสียหายอย่างมาก  ในทางตรงกันข้ามประเทศที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมีสถาบันการเงินที่เข้มแข็งกว่า มีหนี้ในระดับที่ต่ำ และมีความหลากหลายทางเศรษฐกิจซึ่งโดยทั่วไปจะมีการฟื้นตัวที่ดีโอกาสเชิงกลยุทธ์สำหรับปีใหม่นี้เราคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาขึ้นในหลายภูมิภาคเนื่องจากโลกเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคหลังโควิด อย่างไรก็ตามความเสี่ยงในระยะสั้นก็ยังคงมีอยู่ไม่น้อย การล็อกดาวน์และมาตรการข้อจำกัดในระดับภูมิภาคยังคงดำเนินต่อไปเพื่อยับยั้งการระบาดของโรค ข้อจำกัดด้านการเดินทางหรือเคลื่อนย้ายยังคงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการยับยั้งการแพร่ระบาดไวรัสจนกว่าวัคซีนจะพร้อมสำหรับการแจกจ่ายในวงกว้าง กว่าจะถึงเวลานั้นรายได้ที่หายไปและอุปสงค์มวลรวมที่ได้รับผลกระทบจะสร้างความเสียหายต่อสภาวะเศรษฐกิจมหภาค เราคาดว่าสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัย (Safe-Haven Assets) ยังคงมีความสำคัญในช่วงเดือนที่การแพร่ระบาดยังรุนแรง แต่ในท้ายสุดสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยจะสำคัญลดน้อยลงเมื่อวัคซีคสามารถยั้บยังการแพร่ระบาดได้ ในอนาคตเรายังคงมีโอกาสในตลาดสกุลเงินท้องถิ่นบางสกุลขณะที่ยังคงต้องระมัดระวังกับความเสี่ยงในระยะใกล้ เรายังคงมองสถานการณ์เป็นบวกในปีนี้เนื่องจากศักยภาพทางการแพทย์ในการยั้บยังและบรรเทาการแพร่ระบาดโควิด-19

อะไรคือความเสี่ยง?การลงทุนทั้งหมดมีความเสี่ยงรวมถึงความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้น โดยทั่วไปราคาพันธบัตรจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นเมื่อราคาของพันธบัตรในพอร์ตการลงทุนปรับตัวขึ้นตามอัตราดอกเบี้ย มูลค่าของพอร์ตการลงทุนอาจลดลง ความเสี่ยงที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวข้องกับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศรวมถึงความเสี่ยงด้านการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและเศรษฐกิจ แนวทางการซื้อขาย ความพร้อมของข้อมูล ตลาดการเงินและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและนโยบายที่จำกัด ตราสารหนี้ภาครัฐมีความเสี่ยงหลายประการนอกเหนือจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้และหลักทรัพย์ต่างประเทศทั่วไปแต่ไปรวมถึง ความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐที่ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยและชำระคืนเงินต้นสำหรับหนี้สาธารณะได้ การลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่อยู่ภายใต้ความเสี่ยงทั้งหมดของการลงทุนในต่างประเทศทั่วไปและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเนื่องจากขาดความมั่นคงทางกฎหมาย การเมือง ธุรกิจและสังคมที่ถูกตีกรอบไว้เพื่อสนับสนุนตลาดหลักทรัพย์

เกี่ยวกับแฟรงคลิน เทมเพิลตันแฟรงคลิน รีซอร์ส อิงค์ (Franklin Resource) [NYSE: BEN] เป็นองค์กรการจัดการการลงทุนระดับโลกซึ่งดำเนินกิจการร่วมกับบริษัทในเครือ แฟรงคลิน เทมเพิลตัน (Franklin Templeton) ภารกิจของแฟรงคลินเทมเพิลตันคือช่วยให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการการลงทุน การบริหารความมั่งคั่ง และ โซลูชั่นทางเทคโนโลยี โดยผู้จัดการการลงทุนผู้เชี่ยวชาญโดยบริษัทมีความชำนาญในสินทรัพย์ที่ครอบคลุม ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ การลงทุนทางเลือกและโซลูชันการลงทุนในสินทรัพย์ผสม บริษัทฯ มีพนักงานอยู่ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 ประเทศรวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจำนวน 1,300 คน มีประสบการณ์การลงทุนมากกว่า 70 ปีและมีมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายในการดูแล 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม franklintempleton.com และติดตามเราได้ที่ LinkedIn, Twitter และ Facebook.

Copyright (C) 2020. Franklin Templeton Investments. All rights reserved.

ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version