โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เยี่ยมชมห้องปฏิบัติงานของคณะกรรมการดำเนินงานและฝ่ายจัดการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด และพบปะพี่น้องเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ รับฟังปัญหา ความต้องการด้านต่าง ๆ ของผู้นำสหกรณ์พี่น้องสมาชิกสหกรณ์ พร้อมกล่าวมอบนโยบายการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำอาชีพการเกษตร จึงได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตร ที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค การยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ในด้านการมี ส่วนร่วมของสมาชิก มีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ การจัดการองค์กร การบริหารงาน ให้เป็นองค์กรในระดับชุมชน ในการรวบรวม จัดเก็บ แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและแหล่งเงินทุนในระดับพื้นที่ มีการจัดหาตลาดการจัดหาตลาดเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ ภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มโครงการ นำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกร ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ใช้ความรู้ประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาการเกษตรของครอบครัวเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพการเกษตรให้เกิดความยั่งยืน และสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยน เป็นองค์กรในระดับชุมชนทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสวัสดิการ ทำให้ความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์ดีขึ้นอย่างมั่นคง ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมจะให้การสนับสนุนและพัฒนาสหกรณ์ในทุกด้าน เพื่อให้สหกรณ์ทำหน้าที่ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน และชื่นชมบทบาทของสหกรณ์ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สร้างการมีส่วนร่วมและความสามัคคีให้กับชาวบ้านในพื้นที่ และขอให้กำลังใจแก่เกษตรกรในการร่วมกันพัฒนาอาชีพ และร่วมมือกันทำงานในรูปแบบสหกรณ์ มุ่งเน้นงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเพื่อยกระดับสหกรณ์ให้มีมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพต่อไป
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบปัจจัยการผลิตแก่สมาชิกสหกรณ์ ได้แก่ พันธุ์ปลา พันธุ์มะพร้าวชุมพร 2 เมล็ดพันธุ์ผักและชีวภัณฑ์ น้ำหมักชีวภาพ ให้กับผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 40 ราย และได้พบปะ ผู้แทนเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร สำหรับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 55 ราย มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1 แห่ง โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ดำเนินการจัดอบรม ให้ความรู้ในเรื่องอุดมการณ์ หลักการ วิธีการสหกรณ์ อบรมการจัดทำแผนการผลิตเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ การทำปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ การจัดทำแผนด้านการเกษตร การปลูกพืชผสมผสาน สามารถจำหน่ายผลผลิตได้รายปี รายเดือนและรายวัน ศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้ฯ ที่ประสบความสำเร็จจากการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และพร้อมที่จะต่อยอดนำไปดำเนินการยังพื้นที่ของตนเองรวมทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรต่าง ๆ ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ด้านการเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ เทคโนโลยีการผลิต การปลูกผักอินทรีย์ การสร้างเครือข่ายและการตลาด ด้านการเกษตรผสมผสานและเกษตรทฤษฎีใหม่ การแบ่งที่ดินทำกินที่มีทรัพยากรจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งการสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาอาชีพการเกษตรอีกด้วย
นายพินิต โชติภัทร อายุ 37 ปี เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตนเองมีพื้นที่ทำการเกษตร 20 ไร่ ทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกส้มสายน้ำผึ้ง มะพร้าว ปลูกผักสวนครัว มีแหล่งน้ำในพื้นที่ทำเกษตร ได้นำเทคโนโลยีระบบรดน้ำต้นไม้มาปรับใช้กับอาชีพการเกษตรโดยสั่งงาน ผ่านโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาการจัดการแปลงออแกนิคในจังหวัดเชียงราย เลย และกาญจนบุรี รวมทั้งได้นำผลผลิตจากไร่ของตนเองมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนเชอรัล บอตานิคัล แชมพู ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะช่วยให้รากผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม ซึ่งเป็นสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ได้แก่ มะกรูด รางจืด บอระเพ็ด ขิง อัญชัน ทองพันชั่ง รวมทั้งผลิตน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ใช้มะพร้าวในพื้นที่ ไม่มีสารเคมี และผลิตภัณฑ์สบู่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2527 ปัจจุบันสหกรณ์ฯ ได้ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 36 ปี มีสมาชิก 8,878 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรทำสวน ทำนา รับจ้าง และค้าขาย สหกรณ์ฯ ดำเนินธุรกิจ 2 ด้าน เพื่อบริการสมาชิก ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจเงินฝาก มีทุนดำเนินงานมากกว่า 679 ล้านบาท สหกรณ์ฯ ได้รับการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ ดำเนินการส่งเสริมการออมของสมาชิก ส่งเสริมและสร้างทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้กับสมาชิก และสหกรณ์ฯ ยังได้รับโล่พระราชทาน รางวัลสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ประจำปี 2550 ด้วย
ที่มา: กรมส่งเสริมสหกรณ์