ฟอร์ด และกูเกิล ร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานชุดใหม่ในชื่อ Team Upshift เพื่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสามารถของบุคลากร และทรัพยากรที่ทั้งสองบริษัทมีอยู่ Team Upshift นี้จะช่วยผลักดันให้ฟอร์ดพัฒนาปรับโฉมธุรกิจให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งปลดล็อกข้อจำกัดในการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลของผู้บริโภคที่หลากหลาย และกระตุ้นให้เกิดโอกาสจากการประยุกต์ใช้ข้อมูลจำนวนมากในหลากหลายมิติ ซึ่งอาจครอบคลุมโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประสบการณ์ขายปลีกรถในรูปแบบใหม่ รวมถึงการเพิ่มข้อเสนอในการเป็นเจ้าของรถโดยอ้างอิงจากข้อมูลเฉพาะบุคคล
"ฟอร์ดกำลังเดินหน้าปรับโฉมธุรกิจครั้งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ไปจนถึงการขับเคลื่อนอัตโนมัติ กูเกิลและฟอร์ดจึงร่วมกันจัดตั้งสุดยอดทีมพัฒนานวัตกรรม ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า และยกระดับธุรกิจของเราให้ทันสมัยไปอีกขั้นได้อย่างแท้จริง" จิม ฟาร์ลีย์ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว
"จากสายพานโรงงานฟอร์ด สู่เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ฟอร์ดสั่งสมความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่า 120 ปี" นายซันดาร์ พิชัย กรรมการผู้จัดการของกูเกิล และอัลฟาเบท กล่าว "เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับฟอร์ด เพื่อนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ระบบวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแพลตฟอร์มประมวลผลและแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ดีที่สุดจากกูเกิล มาปรับใช้กับธุรกิจของฟอร์ด และมาเป็นส่วนเสริมให้กับวิทยาการการผลิตรถยนต์เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย และการเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย"
ด้วยความเป็นหนึ่งด้านผู้ให้บริการคลาวด์ ตั้งแต่ภายปีนี้เป็นต้นไป กูเกิลจะช่วยให้ฟอร์ดได้ใช้เทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ ของกูเกิล คลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ แมชชีนเลิร์นนิง หรือเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเร่งให้ฟอร์ดได้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติการให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และพัฒนานวัตกรรมการเชื่อมต่อในรถยนต์ด้วยระบบคลาวด์ระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย และไว้วางใจได้ โดยฟอร์ดจะประยุกต์ใช้กูเกิล คลาวด์ ในส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถให้แก่ลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี และบริการที่ทันสมัย เป็นเอกลักษณ์ และปรับใช้ได้กับลูกค้าแต่ละราย
- ปรับกระบวนการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิต และการจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีความล้ำยุคยิ่งขึ้น พร้อมประยุกต์ใช้ทัศนะด้านปัญญาประดิษฐ์กับการฝึกฝนพนักงานของโรงงานฟอร์ด และเพิ่มศักยภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงานให้มีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- เร่งพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยระบบประมวลผลด้วยข้อมูลดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าได้รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ อาทิเช่น การตรวจเช็คสภาพ หรือการซื้อ-ขายรถมือสอง
ฟอร์ดและกูเกิลมีด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นร่วมกัน ในการมอบประสบการณ์การใช้รถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีความสุนทรีย์ มาช่วยลดสิ่งรบกวนระหว่างการขับขี่ รวมไปถึงช่วยให้ลูกค้ารู้เท่าทันเทคโนโลยีผ่านการอัพเดทแบบไร้สาย โดยตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ลูกค้าฟอร์ดและลินคอล์นทั่วโลกจะได้รับประโยชน์ และประสบการณ์ดิจิทัลที่ไม่มีใครเหมือนจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์บนรถยนต์ โดยมีแอปพลิเคชันและบริการของกูเกิลติดตั้งพร้อมใช้ อาทิ ระบบแผนที่ระดับโลก และเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง
- ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากท้องถนนและปล่อยพวงมาลัย เพราะสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ด้วยกูเกิล แอสซิสแทนต์ (Google Assistant)
- กูเกิล แมปส์ (Google Maps) ถือเป็นอีกหนึ่งระบบนำทางยอดฮิต ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ไปถึงจุดหมายปลายทางได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยข้อมูลการจราจรที่อัพเดททันที การปรับเปลี่ยนเส้นทางอัตโนมัติ ข้อแนะนำช่องทางรถในการเดินทาง และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย
- กูเกิล เพลย์ (Google Play) มาพร้อมระบบแชื่อมต่อแอปฯ โปรดของผู้ขับขี่ อาทิ แอปพลิเคชันฟังเพลง พอดแคสต์ และหนังสือเสียง (Audiobook) โดยจะมีการนำแอปพลิเคชันเหล่านี้มาผสานรวมตัวและปรับให้เหมาะสมเพื่อการใช้งานในรถ
นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในรถยนต์ยังช่วยให้ฟอร์ดและผู้พัฒนาแอปพลิเคชันรายอื่นๆ ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของฟอร์ดอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในรูปแบบที่แตกต่าง" ฟาร์ลีย์ กล่าว "การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันการทำงานให้ก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งมวล เพื่อการพัฒนานวัตกรรมและส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าฟอร์ดและลินคอล์น ควบคู่กับการมอบการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันและบริการระดับโลกของกูเกิลได้อย่างไร้รอยต่อ"
ที่มา: ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์