บาฟส์ ผนึก ซาปิโอ ส่ง "SDLT" ชูบล็อกเชนเสริมแกร่งองค์กรธุรกิจไทย สร้างแต้มต่อบนเวทีสากล

อังคาร ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๑ ๐๘:๕๕
บริษัท บาฟส์ อินโนเวชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (BAFS Innovation Development - BID) ในเครือบมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) ผนึกซาปิโอ เอเชีย (SAPIO Asia) ร่วมทุนก่อตั้งบริษัท เอสดีแอลที จำกัด (SDLT) นำเสนอโซลูชั่นไพรเวทบล็อกเชนที่ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ชูจุดเด่นประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อบล็อกเชน มุ่งเจาะลูกค้าองค์กร เพื่อเสริมขีดความสามารถการแข่งขันให้เหนือระดับในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้องค์กรต้องปรับไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างเร่งด่วน ซึ่ง DLT จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทต่างๆ มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

ทั้งนี้ SAPIO และ BID เป็นผู้นำนวัตกรรมในอุตสาหกรรม โดยเทคโนโลยีของ SAPIO สามารถนำข้อมูลของผู้ใช้งานจากหลายแหล่ง (สมาร์ตโฟน อีเมล โซเชียลมีเดีย) มาผนวกใช้กับแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ซับซ้อน นำเสนอเป็น Fintech-as-a-Service และโซลูชั่นจากระบบ AI ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้ให้บริการด้านการเงิน นายเอเดรียน แอปเปอร์ลีย์ กรรมการบริหาร ซาปิโอ เอเชีย กล่าวว่า "กลุ่มเป้าหมายหลักของ SAPIO คือ ธุรกิจการเงิน ค้าปลีก และอนาลิติกส์ โดยเราเน้นให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจประกัน การบริหารคุณค่าในธุรกิจค้าปลีก (retail value management/audience aggregation) และธุรกิจสินเชื่อ ความร่วมมือระหว่าง SAPIO และ BID ในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำความเชี่ยวชาญที่มี มาผนวกใช้ให้เข้ากับตลาดภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การปฏิบัติการ สินเชื่อ และเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้องค์กรไทยมีแต้มต่อในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง"

BID เป็นบริษัทในเครือบมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ มีบทบาทในการพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญ มุ่งรองรับธุรกิจการบิน ปิโตรเลียม และอุตสาหกรรมอีกหลากหลาย ทั้งนี้ BID และ SAPIO มีความเชื่อพื้นฐานร่วมกันว่า บล็อกเชนจะสร้างคุณค่าที่แตกต่างและเป็นที่ต้องการของตลาด ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ กล่าวว่า "บาฟส์เชื่ออย่างยิ่งว่า เทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนกลไกต่างๆ ในอนาคต จะช่วยผลักดันให้เกิดโมเดลการทำงานที่มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายและเอื้อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเล็งเห็นถึงวิสัยทัศน์ดังกล่าว BID จึงก่อตั้งขึ้นในปี 2559 ด้วยเงินลงทุน 70 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวทางนี้"

ด้วยความตั้งใจจริงที่จะช่วยองค์กรธุรกิจให้สามารถปรับตัวเข้าสู่การดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล BAFS และ SAPIO ได้ร่วมกันพัฒนางานต่างๆ ให้เป็นอัตโนมัติและสร้างความแตกต่างให้เกิดแต้มต่อ ทั้งสองบริษัทจึงตัดสินใจร่วมก่อตั้งกิจการร่วมทุน ในช่วงที่ตลาดไทยและต่างประเทศมีความพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีนี้จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด ปรับให้กระบวนการทำงานต่างๆ ลื่นไหล ช่วยลดต้นทุน ทำให้กระแสเงินสดหมุนเวียนดีขึ้น เพิ่มอัตราการทำกำไร รวมทั้งยกระดับความถูกต้องสมบูรณ์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ที่สำคัญคือการนำ DLT มาใช้ จะช่วยให้องค์กรปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจได้ทันการณ์ พร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงในช่วงฟื้นฟูหลังจากโควิด

SDLT จึงจะทำหน้าที่ออกแบบ สร้าง และบริหารโซลูชั่นไพรเวทบล็อกเชน โดยใช้เทคโนโลยี AI ทำงานร่วมด้วย เพื่อรองรับลูกค้าองค์กรและหน่วยงานภาครัฐ ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ให้กับระบบปฏิบัติการต่างๆ ขณะเดียวกันก็เอื้อให้การติดต่อธุรกรรมทั้งในและนอกองค์กรทำได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด โดยมีระบบอัจฉริยะช่วยตัดสินใจอยู่เบื้องหลัง นายแกรี่ พาวด์ กรรมการอำนวยการของ SDLT กล่าวว่า "เราคร่ำหวอดในวงการธุรกิจมายาวนาน มีแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ล้ำสมัย และมีระบบนิเวศที่ดีในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ทำให้ SDLT สามารถสร้างต้นแบบแอปพลิเคชั่น DLT ที่ตอบโจทย์องค์กรและพร้อมนำส่งได้ภายในเวลาเพียง 30 วัน ซึ่งเราได้พัฒนาโซลูชั่นสำหรับหลายๆ อุตสาหกรรมมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านซัพพลายเชนและการจัดการโลจิสติกส์ การแพทย์และดูแลสุขภาพ (healthcare) งานบริการ (hospitality) ค้าปลีก และการประกันภัย ยิ่งในยุคดิจิทัล ปัจจัยสำคัญที่จะนำความสำเร็จมาให้แก่ธุรกิจ ไม่ใช่แค่ความได้เปรียบเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่รวมถึงสมรรถนะด้านความปลอดภัยและด้านปฏิบัติการด้วย เพราะทุกวันนี้ เราอยู่ในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่น-ไว้ใจ (economy of trust) เทคโนโลยีและความชำนาญของ SDLT จึงเข้ามาตอบโจทย์ได้ในจุดนี้"

จากการที่ธุรกิจ B2B และ B2C ปรับตัวสู่ตลาดดิจิทัลมากขึ้น ทำให้เห็นถึงประโยชน์ของบล็อกเชนและการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและก้าวขึ้นเป็นองค์กรแนวหน้าในด้าน Digital Transformation สำหรับธุรกิจไทยในปัจจุบัน องค์กรที่เลือกใช้บล็อกเชนและแพลตฟอร์มดิจิทัล จะมีความพร้อมมากกว่า และได้ประโยชน์จากการที่ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องแม้จะเกิดวิกฤตขึ้นมาในอนาคตก็ตาม

ที่มา: เอบีเอ็ม คอนเนค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย